ท่องเที่ยวต่างประเทศ [13]

ตอนนี้เป็นตอนที่ 4 ของ พาเที่ยวเกียวโต 1 วัน ซึ่งจริง ๆ แล้วในตอนนี้คืออยู่ที่ โอซาก้า แล้วครับ แต่ยังอยู่ในคอนเซ็ปท์ของ พาเที่ยวเกียวโต 1 วัน อยู่ ดั่งที่ในตอนที่ 1 ที่ได้กล่าวไว้คือ  เที่ยวเกียวโตแบบไปเช้าเย็นกลับจาก โอซาก้า (Osaka –> Kyoto –> Osaka) ไหน ๆ ก็พาเที่ยวตั้งแต่กินข้าวเช้า งั้นก็เที่ยวจนมืดค่ำและพากินอาหารค่ำไปด้วยเลย

คลิกกลับไปอ่าน ตอน 1-3 ได้ครับ

• ตอนที่ 1 วัดเสาแดง Fushimi Inari Shrine
• ตอนที่ 2 ป่าไผ่ Arashiyama Bamboo Grove 
• ตอนที่ 3 ขึ้นรถไฟ Sagano Romantic Train 

และถ้ามาถึงโอซาก้าแล้วต้องไป

ย่านโดทงโบริ (Dotonbori)

 

 

Nontdesign ขอพาท่านไปย่านดังแห่งโอซาก้าหลังกลับมาจากเกียวโต ซึ่งก็คือ ย่านโดทงโบริ นั่นเอง ถ้าอ่านแบบสำเนียงญี่ปุ่นคือ โด – ทม – โบะ – ริ (道頓堀 dōtonbori) แต่คนจะไม่ค่อยชินกันชื่อนี้กันสักเท่าไหร่ ลองบอกว่า ย่านกูลิโกะ สิ ถึงกับนึกออก และถามว่า ทำไมเรียกชื่อนี้ตั้งแต่แรกว่ะครับ เพราะเหตุนี้แหละครับถึงต้องมาดึกหน่อยเพราะต้องรอป้ายกูลิโกะเปิดไฟก่อน (จริง ๆ มาดูกลางวันก็ได้นะ)

ครั้งแรกที่ผมไป ผมหาเจ้า ป้ายไฟกูลิโกะ นี่ไม่เจอครับ ก็ถามว่า glico sign glico sign คนญี่ปุ่นก็ทำหน้างง (ซึ่งผมได้ถามเพื่อนคนไทยที่อยู่ญี่ปุ่น เขาบอกว่าออกเสียงว่า gu – ri – ko นะ ผมก็ไม่แน่ใจหรือสำเนียงเราอาจจะไม่ได้) เดินวนไปวนมาบนถนนที่ยาวเอาเรื่องอยู่ ข้ามคลองไปมา อยู่ฝั่งไหนน้าาาาา จนผมต้องทำท่ายืนขาเดียวชูสองแขนขึ้นเหนือหัว จากนั้นเขาก็ลากพาผมเดินผสมวิ่งไปตรงป้ายไฟอย่างรวดเร็ว ดีใจมาก โค้งขอบคุณพี่คนนั้น โค้งแล้วโค้งอีก นี่คือเสน่ห์อีกอย่างของการไปเที่ยวญี่ปุ่นเลยนะ น่ารักดี

 

 

ผมจะบอกที่อยู่ของป้ายแบบเดินทีเดียวเจอเลยไม่ต้องวนไปวนมา เวลาเพื่อนผมไป ผมก็จะบอกว่า Starbucks นะ H&M นะ แต่แถว ๆ นั้นมี H&M หลายสาขา เพราะว่าเราสามารถลงได้หลายสถานี ขึ้นมาจากสถานีไหนก็เจอ H&M…ดองกี้…ABC Mart คนไม่เคยไปมีหลง แต่บางคนไปครั้งแรก เดิน ๆ เจอเลยก็มี

ขอเริ่มจากวิธีที่ง่ายที่สุดก่อนครับ
คือให้ลงที่สถานี osaka-namba station ลงแล้วเราจะอยู่ใต้ดินครับ ให้หา ทางออก 14 ครับมุ่งไปทางนั้นเลยซึ่งทางออกจะไปทางเดียวกับทางออก 25 เวลาขึ้นสู่ชั้นพื้นดินก็แค่ออกคนละฝั่งถนนกันครับ

เมื่อขึ้นมาสู่พื้นดินของทางออก 14 แล้ว เราจะพบกับ Family Mart อยู่หัวมุมและตึก Namba Hips อย่าเพิ่งหลงแสงสีไปทางนั้นนะครับ ให้กลับหลังหัน ไปทางตรงข้ามกับ Namba Hips ไปตามทางเรื่อย ๆ จะเจอสะพานที่ดูเหมือนถนนธรรมดาชื่อว่า Dotonbori Bridge ง่าย ๆ คือเดินไปมองขวาไปเจอถนนที่มีน้ำลอดใต้เมื่อไหร่ จะเจอ ป้ายไฟกูลิโกะ ทันที

 

 

ซึ่งหากท่านผู้อ่านมาเร็วก่อนเวลาเปิดไฟอาจจะแวะเที่ยวที่ Namba Hips โดยออกทางออก 15 คือจะเข้าไปในห้างเลยครับ หรือออกทางออก 14 แล้วเข้าไปในซอยระหว่าง Family Mart กับตึก Namba Hips เดินเข้าไปเจอสี่แยกจะเห็น ABC Mart ชัดเจน ให้เดินเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ Ebisu Bashi-Suji เดินไปไม่ไกลนักจะเจอ Starbucks ตรงทางตัดกับถนน (ตรงนี้คือ Dotonbori ครับ) ให้เดินต่อไปจนเจอคลองครับ  ป้ายไฟกูลิโกะ จะอยู่ซ้ายมือ

 

 

ย้ำว่าอย่าเดินผิดนะครับ หากเจอ ABC Mart แล้วเลี้ยวขวา กว่าจะรู้ตัวอาจจะแย่ได้ เดินเหนื่อย แล้วอาจจะเสียตังอีกนะครับ เพราะ  Ebisu Bashi – Suji เป็น Shopping Street ที่ยาวมากครับ หากนับจริงคือยาวจาก Hommachi Station จะเป็นทางเดินมีหลังคา เดินไปเรื่อย ๆ ผ่าน  Shinsaibashi Station ถัดไปหน่อย ถนนเส้นนี้จะถูกเรียกว่า Shinsaibashi – Suji (คือถนนเส้นเดิมนะครับ) พอผ่าน Dotonbori มาก็จะเป็น Ebisu Bashi – Suji (คือถนนเส้นเดิมอีกครับ) ยาวไปจนถึง  Takashimaya สาขา Osaka ครับ

 

 

รวมระยะทางจาก Hommachi Station ไป Takashimaya ประมาณ 2 กิโลเมตรครึ่งนะครับ ถ้าเดินด้วยช้อปปิ้งด้วย ผมว่ามีครึ่งวันนะ ซึ่งคนที่ไม่ได้ไปเกียวโตก่อน มาที่นี่ก็ลงที่ Hommachi Station เดินไล่มาเรื่อย ๆ ได้ แต่ผมว่าลงแค่ Shinsaibashi Station แล้วเดินไป ป้ายไฟกูลิโกะ ก็เพียงพอแล้วครับ ทั้งของกิน เสื้อผ้า รองเท้า ขึ้นจากสถานีก็เจอ Zara ตามด้วย UNIQLO…H&M (คนละสาขากับตรงป้ายไฟกูลิโกะนะครับ) เดินย้อนกลับมี COMME ด้วยนะ มี GU…Onitsuka Tiger…skechers…Nike…Adidas…ร้าน 3 Coins…ร้านขายยา…ร้านขนม PABLO โหเยอะครับ เยอะมาก

 

 

หวังว่าท่านผู้อ่านคงจะเจอ Glico Running Man Sign นะครับ อย่าลืมเปิด flash เวลาถ่ายรูปคนนะครับ แสงจากป้ายไฟ Glico Man นั้นสว่างครับ จะกลายเป็นเราถ่ายย้อนแสงไป เติมแสงให้หน้าสักหน่อย จะได้เห็นหน้าครับ หน้าอาจจะแบน ๆ หน่อย ไม่ค่อยมีมิติ เพราะ flash จากมือถือเรา (จุดให้กำเนิดแสง) มันเล็กครับแต่ก็พอได้อยู่

กลับมาที่ โดทงโบริ จะจบอยู่แล้วแต่เพิ่งเข้าเรื่องเอง ฮาาาาาาา คือย่านนี้เป็นถนนทั้งสองฝั่งที่เลียบคลอง ตัดขวางกับ Shopping Street ไอที่ยาว ๆ นั้นแหละครับ จบจากป้ายไฟก็คือ ของใหญ่ ครับ ผมมีคนรู้จักที่เกิดที่โอซาก้าหลายคน ทุกคนมักพูดว่าโอซาก้าชอบแข่งกันใหญ่ ผมก็ไม่เข้าใจ เขาบอกว่าให้มาดูที่ Dotonbori นี่แหละครับ

 

 

หากหันหลังให้สะพานตรง Glico Man เดินไปตามถนนเลียบคลองทั้งสองฝั่ง หรือจะเดินตรงที่เป็นทางเดินรั้วริมคลองก็ได้ครับ คือถ้าคิดจากคลองอยู่ตรงกลาง จะเป็น ถนนเลียบคลอง <– ร้านค้าต่าง ๆ <– ทางเดินริมคลองมีรั้ว <–  คลอง –> ทางเดินริมคลองมีรั้ว –> ร้านค้าต่าง ๆ –> ถนนเลียบคลอง และจะมีทางเชื่อมเป็นสะพานข้ามคลองเป็นระยะ  ตรงนี้แหละครับ จะเต็มไปด้วยของใหญ่ (ลองดูจากในแผนที่ครับ)

 

 

 

ไล่ไปตั้งแต่ ปูยักษ์…เกี๊ยวซ่ายักษ์…ปลาหมึกยักษ์…ปลาปักเป้ายักษ์…ซูชิยักษ์ มีให้เห็นจนถึง เพนกวินยักษ์ของร้านดองกี้ บอกได้เลยว่า ร้านไหนขายอะไร มีของใหญ่เป็นรูปปั้นนูนสูง นูนต่ำ เป็นตัว ๆ 3D ก็จัดเต็มอยู่หน้าร้าน เห็นชัดแบบไม่ต้องถามว่า ขายอะไรน้า (บางร้านเป็นมังกรยักษ์ แต่ขายราเมน) แต่ก็ไม่ทุกร้านนะครับ ความอร่อยกับความดังไม่ได้อยู่ที่ใหญ่ไม่ใหญ่ แต่เห็นแล้วก็อยากเข้าไปลองชิม (มีผลนะ ดึงดูด ๆ)

 

 

 

 

 

หากมีเวลาก็ไปต่อคิว Ichiran Ramen ชื่อดัง น่าจะมี 1 ชั่วโมงครึ่งอย่างน้อยครับ ไปลองดูนะ ผมว่าก็อร่อยดี และก็ ทาโกะยากิ ร้านดัง ดังแค่ไหนดูจากคนต่อคิวได้ครับ มีหลายร้านให้ลองชิม

 

 

ของใหญ่ ก็ดูจากรูปนะครับ แล้วพบกันใหม่ครับ

 

 

 

 

 

 

 

สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign

ขอบคุณครับ
นนท์