กินอะไรดี ซื้อกินดีกว่า [22]
เวลาที่เราได้รับโจทย์ว่า “อยากกินอาหารญี่ปุ่น” ตัวเลือกแรก ๆ ที่เกือบทุกคนมักจะนึกถึงเป็นตัวเลือกแรก ๆ ก็คือ “ราเมน” เพราะเป็นอาหารที่สามารถหาทานได้ง่ายและมีหลากหลายร้านให้เลือก แตกต่างกันตรงที่อะไรคือจุดเด่นของแต่ละร้าน แต่ร้านไหนจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดของเราล่ะ?
ตอนนี้ Nontdesign จึงขอนำเสนอ ร้านราเมนเด็ด หากินได้ในประเทศไทยจย้าาาาาาา
Fujiyama Go Go ราเมนเส้นโตจากเมืองนาโกย่า
ใครเป็นสายที่ชอบกินราเมนแบบแยกเส้น แยกน้ำ ร้านนี้บอกเลยว่าแจ่ม ร้านที่ว่านี้ก็คือ
“Fujiyama GO GO” ร้าน Tsukemen Ramen
ร้านดังจากเมืองนาโกย่า (Nagoya)
บางคนก็เรียกว่า Fujiyama 55
เพราะ เลข 5 ในภาษาญี่ปุ่น จะออกเสียงว่า Go หรือ โกะ นั่นเองครับ
เป็นการเล่นคำ คล้าย 555 = ฮ่าฮ่าฮ่า = ขำ ของบ้านเรา
👉👉👉 หลายคนอาจจะสงสัยว่า Tsukemen Ramen คืออะไร?
Tsukemen Ramen คือราเมนแบบแห้งที่หลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นหรือเคยทานมาแล้วนี่แหละค่ะ เวลาที่เสิร์ฟราเมนทางร้านจะแยกเส้นและน้ำซุปมาให้ เวลาทานเราก็ทำการคีบเส้นราเมนใส่ลงไปในถ้วยน้ำซุปแล้วก็ซู้ดดดดเส้นดัง ๆ นั่นเองค่ะ
👉👉👉 แล้วอะไรคือความพิเศษของร้านนี้ล่ะ?
เราจะมาเริ่มกันที่น้ำซุปก่อน ทางร้านบอกว่า (ที่จริงเขาไม่ได้บอกหรอก อ่านเอาจากเมนูของทางร้าน ฮ่าๆๆ😆) เป็นน้ำซุปเข้มข้นที่ใช้เวลาต้มถึง 48 ชั่วโมง หรือ 2 วัน โดยเป็นการใส่วัตถุดิบลงไปในหม้อต้มใบใหญ่จนเต็มหม้อเพื่อให้ได้น้ำซุปที่มีรสชาติเข้มข้น และนอกจากนั้นเส้นราเมนเส้นโตก็เป็นเส้นสดที่ทางร้านทำเองด้วยเครื่องจักรที่ทันสมัย โดยใช้แป้งที่ส่งตรงจากเมืองนาโกย่า ประเทศญี่ปุ่น เป็นเส้นที่ทำใหม่ทุกเช้า จึงทำให้เส้นมีความเหนียว นุ่ม และยังเป็นการทำเส้นที่ปรับเปลี่ยนตามอุณหภูมิและความชื้น จึงทำให้เส้นราเมนที่ได้มีความอร่อยไม่เหมือนร้านอื่น
สาขาที่ก้อยจะพาทุกคนไปทานในครั้งนี้ก็คือที่ สุขุมวิท 39 การเดินทางไม่ยากเลยค่ะ (แต่ถ้าใครกลัวหลงก้อยจะปักหมุดแผนที่ร้านไว้ให้ด้านล่างนะคะ)
- รถไฟฟ้า : ลง BTS สถานีพร้อมพงษ์ ถ้าใครใคร่เดินก็สามารถเดินไปได้นะคะ เพราะว่าห่างจาก BTS ประมาณ 600 เมตร เดินมาจนถึงหน้าปากซอยซอยพร้อมมิตร ร้านจะอยู่ในโครงการเล็ก ๆ ทางซ้ายมือค่ะ
- รถส่วนตัว : ขับรถมาทางซอยสุขุมวิท 39 แล้วเลี้ยวเข้าซอยพร้อมมิตร พอเห็นป้ายหน้าร้านก็เตรียมเลี้ยวรถเข้ามาได้เลยค่ะ
มาพูดถึงเรื่องการตกแต่งร้านกันบ้าง อุปกรณ์การตกแต่งภายในร้าน รวมถึงทางเข้าร้าน เป็นการเลียนแบบมาจากแบบบ้านของประเทศญี่ปุ่น ทำให้เราสัมผัสกลิ่นอายและบรรยากาศของความเป็นญี่ปุ่นได้ตั้งแต่เดินเข้าร้าน มีที่นั่งให้เลือกทั้งแบบโต๊ะนั่งแบบปกติและแบบเคาท์เตอร์ แต่ถ้านั่งตรงเคาท์เตอร์เราจะได้ใกล้ชิดเชฟแล้วก็ได้นั่งดูเชฟทำอาหารให้เราทานด้วย ได้ฟีลเหมือนอยู่ที่ญี่ปุ่นไปอีกกก
เลือกที่นั่งได้แล้วก็ถึงเวลามาเลือกกันว่าจะทานเมนูอะไรดี
ทางร้านมีเมนูให้เลือกมากมายทั้ง Tsukemen Ramen เมนูขึ้นชื่อของทางร้าน หรือใครอยากทานราเมนแบบปกติ ชุดข้าว ของทานเล่นต่าง ๆ ทางร้านก็มีให้เลือกเช่นกัน

สำหรับเมนูแรกที่ก้อยเลือกในวันนี้คือ
อุมาการะ ทสึเคเมน พิเศษ (Umakara Tsukemen Special) [330 บาท] เสิร์ฟแบบแยกเส้นกับน้ำซุปเข้มข้นสูตรพิเศษผสมเต้าหู้ทรงเครื่อง พร้อมท้อปปิ้ง 5 อย่าง ตอนที่พี่พนักงานเอามาเสิร์ฟเห็นแล้วถึงกับตกใจ ทำไมชามถึงได้ใหญ่โตขนาดนั้นนน แล้วจะกินหมดไหมเนี่ย ฮ่าๆๆๆ (ในคำว่า ฮ่าๆๆ มีน้ำตาซ่อนอยู่) เมนูนี้จะมีรสชาติเผ็ดนิดหน่อย แต่คนไม่ทานเผ็ดสามารถทานได้สบายเลยค่ะ

เมนูต่อมาคือ โนโค ทสึเคเมน (Nou Kou Tsukemen) [210 บาท] เสิร์ฟแบบแยกเส้น แยกน้ำซุปเข้มข้นเช่นกันและมาในปริมาณที่จุใจแบบชามแรก แต่ก็ยังไม่จุใจพอ เลยทำการสั่ง Tsukemen Topping เพิ่มไปด้วย นั่นก็คือ Omori (Extra Noodle) เพิ่มเส้น 1.5 เท่า [30 บาท] และ Zenbu Nose รวมท้อปปิ้ง [100 บาท] ในส่วนของท้อปปิ้งจะประกอบไปด้วย ไข่ยางมะตูม หน่อไม้ ต้นหอมญี่ปุ่น หมูชาชู และสาหร่าย รสชาติของชามนี้ไม่เผ็ดนะคะ เป็นรสชาติกลมกล่อมกำลังดี และถ้าใครเป็นสายกินชีสแบบก้อยทางร้านก็มีชีสให้สั่งเพิ่มด้วย [30 บาท]

สำหรับวิธีทานทสึเคเมนก็ง่าย ๆ เลยค่ะ (บอกไว้เผื่อใครยังไม่รู้เนอะ)
- ให้ชิมเส้นที่เสิร์ฟแยกมากับน้ำซุปก่อนนะคะ ถ้ารู้สึกว่ารสชาติจืดเกินไปก็ทำการบีบมะนาวที่อยู่ในจานลงไปได้เลยค่ะ
- จุ่มเส้นราเมนลงในน้ำซุปแล้วก็ทำการซู้ดดัง ๆ เลยค่ะ การซู้ดเส้นดัง ๆ นอกจากจะเป็นการเพิ่มความอร่อยและลดความร้อนแล้ว ยังเป็นการให้กำลังใจเชฟด้วยนะเอ้อ (ใครที่ไปญี่ปุ่นคงเคยเจอประสบการณ์นี้ ถ้าเราทานแบบเงียบ ๆ ถ้าเชฟหันมามองแล้วเกิดสบตากันเมื่อไหร่ล่ะก็ เชฟจะถามทันทีว่า “โออิชิๆๆๆ?!” ฮ่าๆๆ)
- ถ้าน้ำซุปรสชาติยังไม่ถูกใจ สามารถหยิบกระเทียม น้ำมันงา น้ำส้มที่อยู่บนโต๊ะมาเพิ่มรสชาติได้นะคะ
- ระหว่างที่ทานถ้าน้ำซุปเริ่มแห้ง เราสามารถหยิบน้ำซุปปลาแห้งที่อยู่ใกล้กับเครื่องปรุงมาเติมได้ นอกจากนั้นถ้าน้ำซุปเริ่มหายร้อนแล้ว เราก็สามารถเปิดเตาที่อยู่ตรงโต๊ะของเราอุ่นซุปให้ร้อนได้ด้วยเด้อ (นี่ล่ะ ใครมีชีสก็จัดเลย งานชีสยืดก็มาาาา ฮ่าๆๆๆ) แต่ถ้าใครยังไม่อิ่มสามารถสั่งข้าวมาทานกับน้ำซุปที่เหลือได้นะคะ

นอกจากทสีเคเมนแล้วก้อยก็สั่ง เกี๊ยวซ่า (Gyoza) [85 บาท] มาทานเล่นด้วย เกี๊ยวซ่าที่นี่รสชาติอร่อย แป้งนุ่มกำลังดี ไม่แข็งเกินไป ไส้เกี๊ยวซ่าก็อร่อย รสชาติกลมกล่อนเช่นกัน กินไปกินมา เพลินจย้าา! หมดจานเฉย! ฮ่าๆๆ

รสชาติโดยรวมถือว่าอร่อยเลยนะคะ ราเมนเส้นใหญ่ เหนียว นุ่มตามที่ร้านเคลมไว้ และรสชาติของน้ำซุปก็อร่อย กลมกล่อมใช้ได้เลยค่ะ สำหรับใครที่กระเพาะเล็กอาจจะทานไม่หมดนะคะ เพราะว่าราเมนแต่ละชามมีปริมาณที่เยอะอยู่ ถ้าใครที่รีบกินบอกเลยว่ามีจุกค่ะ ฮ่าๆๆๆ เมื่อนำรสชาติมาเทียบกับปริมาณและราคาแล้วก้อยว่าโอเคเลยนะคะ ร้านนี้มีหลายสาขา ใครสะดวกสาขาไหนเลือกตามรายชื่อด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
- สุขุมวิท 39
- เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า
- เซ็นทรัล เวสต์เกต
- เซ็นทรัล ศาลายา
- เซ็นทรัล โคราช
- พรอเมนาดา เชียงใหม่
- ฮักส์มอลล์ ขอนแก่น)


ก่อนจะจบการรีวิวร้านนี้ ตอนที่เราชำระเงินค่าอาหาร ทางร้านจะมี Point Card มาให้เราด้วยเด้อ โดยเงื่อนไขการสะสมแต้มมีดังนี้
- รับ 1 แต้มเมื่อรับประทานอาหาร 200 บาทขึ้นไป / บิล
- แต่ละตำแหน่งจะมีรางวัลให้ โดยมีทั้งหมด 5 ตำแหน่ง
- 1 ตำแหน่งมีอายุ 1 ปี
ถ้าใครมีโอกาสไปทานร้านนี้อย่าลืมเก็บสะสมแต้มกันด้วยนะคะ

ขอบคุณที่อ่านกันมาจนถึงบรรทัดนี้
ไว้เจอกันใหม่รีวิวหน้า สัญญาเกี่ยวก้อยว่าจะพาไปทานร้านอร่อย ๆ อีกนะคะ
สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign
ขอบคุณ (อีกครั้ง)
ก้อย
บ๊ายบายจย้าาาา