JAPAN 1st Time [3]…กินอิ่มจนเพลินพุง ถลุงเงินเกินบรรยาย ภาค 2

ท่องเที่ยวต่างประเทศ [19]

หลังจากที่ผมได้ให้สาวน้อยเล่าเรื่องราวไปญี่ปุ่นครั้งแรกของนางจบไป 2 ตอนแล้ว กลับไปย้อนอ่านได้ที่

JAPAN 1st Time…โดนแมวเทที่ญี่ปุ่น

JAPAN 1st Time [2]…กินอิ่มจนเพลินพุง ถลุงเงินเกินบรรยาย

เรามาเริ่มตอนที่ 3 กันเลยครับ ในตอน

JAPAN 1st Time [3]…กินอิ่มจนเพลินพุง ถลุงเงินเกินบรรยาย ภาค 2

เอาล่ะค่ะ หลังจากที่กินอิ่มจนเพลินพุงกันแล้วในตอนที่ผ่านมา ทีนี้ก็ได้เวลามาเบิร์นรีดน้ำหนักกันด้วยการเดินเที่ยวและช็อปปิ้งกันแล้วจ้าาาา

มาเริ่มกันที่แรกเลยดีกว่า สำหรับใครที่ชอบการ หมุนกาชาปอง เป็นชีวิตจิตใจน่าจะชอบร้านนี้ นั่นก็คือ Akihabara Gachapon Kaiken ร้านนี้ตั้งอยู่ในย่านอากิฮาบาระ (Akihabara) เรียกได้ว่าร้านนี้เป็นสวรรค์ของคนชอบกาชาปองเลยก็ว่าได้ มีกาชาปองให้เลือกหมุนเยอะแยะไปหมด แค่กำเงินไว้ในมือ แล้วเดินไปหมุนได้เลย นอกจากกาชาปองที่หมุนเองได้แล้ว ยังมีแบบที่ขายแยกอยู่ในตู้ให้เราไปจิ้มเลือกซื้อได้ด้วย ถ้าอยากได้เซตไหนให้เดินไปบอกคุณลุงได้เลย คุณลุงจะมาไขกุญแจแล้วหยิบมาให้ รุ่นน้องเราได้มูมินไป 1 เซต 800 กว่าเยน แต่ใน 1 เซตนั้นมีรวมๆ กันตั้ง 8 ตัว ถือว่าคุ้มโพดๆ วันนั้นที่เราไปจำได้ว่าเสียเวลาอยู่ที่ร้านนี้เป็นชั่วโมงเลยแหละ หมุนจนเพลิน เงินก็หายวับไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน 55555

 

ช็อป Freitag สาขานี้มีกระเป๋าให้เลือกหลายลายเลย
ช็อป Freitag สาขานี้มีกระเป๋าให้เลือกหลายลายเลย

 

ร้านต่อมาน่าจะถูกใจชาว Freitager กันแน่นอน นั่นก็คือ ร้าน Freitag Store Shop ช็อปนี้อยู่ตรงระหว่างทางเดินจาก Omotesando ไป Shibuya ซึ่งร้านนี้เป็นร้านที่เราตั้งใจพุ่งตัวเข้าไปมากที่สุดร้านนึงเลย คือตั้งเป้าไว้แบบจริงจังระดับ 10 ว่าต้องไปให้ได้! หลายคนอาจจะสงสัยว่ากระเป๋า Freitag คือกระเป๋าอะไร มีความพิเศษยังไง เรามาทำความรู้จักกับกระเป๋า Freitag กันดีกว่า

Freitag ก่อตั้งขึ้นโดยสองพี่น้องชาวสวิส Markus และ Daniel Freitag โดยวัสดุหลักที่ใช้ทำกระเป๋ามาจากผ้าใบคลุมรถบรรทุกที่มีอายุการใช้งานมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ปี และใช้วัสดุรีไซเคิลอื่น ๆ ร่วมด้วยคือ ยางในรถจักรยานและเข็มขัดนิรภัยรถยนต์ และความพิเศษของกระเป๋าอีกอย่างนึงของแบรนด์นี้คือ กระเป๋าแต่ละลายจะมีเพียงใบเดียวในโลกเท่านั้น ถึงต่อให้กระเป๋าจะมีสีที่เหมือนกัน แต่รอยเปื้อนบนกระเป๋านั้นจะไม่มีทางเหมือนกันแน่นอน

และเพราะเหตุนี้เราเลยอยากจะมาดูลายกระเป๋าที่ญี่ปุ่น เพราะคิดว่าน่าจะมีลายแปลกๆ ซึ่งก่อนหน้านี้เราไปดูช็อปที่กินซ่ามาแล้วแต่รุ่นที่เล็งไว้ยังไม่มีลายที่ถูกใจ พอมาถึงที่ช็อปนี้ก็ยิ้มแก้มแทบแตก มีกระเป๋าให้เลือกหลายลายละลานตาไปหมดเลย เรียกได้ว่าเงินในกระเป๋านี่สั่นไม่หยุดกันเลยทีเดียวววว ฮาาาาาา

ถ้าใครที่เคยไปช็อป Freitag Pop Up Store ที่สยามซอย 7 แล้วรู้สึกว่าใหญ่แล้ว คิดผิดนะยูววว ช็อปที่นี่ใหญ่กว่าอีกเด้อ เดินไปเถอะเป็นชั่วโมงก็ไม่เบื่อ คือมันมีกระเป๋าให้เลือกหลายลายจริงๆ แต่เราก็ยังไม่ได้กระเป๋ากลับบ้านไปอยู่ดีเพราะรุ่นที่เราอยากได้ยังไม่มีลายที่ถูกใจ แต่ความจริงก็มีถูกใจอยู่ลายนึง แต่ด้วยความที่เคยซื้อรุ่นนั้นไปแล้วและตั้งเป้าหมายว่าจะซื้อรุ่นอื่นเพิ่มก็เลยตัดใจไม่เอาดีกว่า ราคาของกระเป๋าเมื่อเทียบกับราคาที่ไทยก็จะมีถูกกว่าบ้าง แพงกว่าบ้าง แล้วแต่รุ่นเลยค่ะ แต่ราคาก็ไม่ได้ต่างจากที่ไทยเท่าไหร่ แต่ถ้าใครที่อยากได้ลายกระเป๋าแบบแปลก ๆ น่าจะตอบโจทย์เลยแหละ ลองแวะไปดูกันได้ แล้วเรามาเป็นชาว Freitager ด้วยกันนะ

ขอปิดท้ายการช็อปปิ้งด้วยร้านที่อยู่ใน Omotesando แล้วกันเนอะ ร้านนี้เป็นร้านที่พี่นนท์แนะนำมาว่า ถ้ามีเวลาเหลือและเดินไหวควรจะเดินไปดูนะ ร้านนี้คือร้าน Imabari Towel Shop ตั้งอยู่ใกล้กับร้าน Issey Miyake ร้านนี้จะอยู่ที่ชั้นสองนะคะ ชั้นแรกจะเป็น Shop Converse พอเดินขึ้นมาให้เดินเลี้ยวขวาไปเลยค่ะ แล้วก็จะเห็นป้ายร้านแบบชัดเจน เป็นร้านขายผ้าเช็ดตัวที่มีความนุ่มมากกกกกกกก นุ่มจนไม่รู้จะนุ่มยังไง และความนุ่นมากน้อยนั้นก็ขึ้นอยู่กับราคาด้วยนะ ยิ่งแพงยิ่งนุ่ม และเพราะเหตุนี้เราก็เลยจัดมา 2 ผืน แต่ซื้อแบบผืนเล็กมา เพราะว่าชอบลาย มันน่ารักมากเลยอ่ะตัวเธอออออ แล้วยิ่งเอามาเช็ดหน้ายิ่งนุ่มไปอีก คือโอ้ยยยยย มันฟินนนน ถ้ามีโอกาสเราจะกลับไปซื้ออีก ถึงแม้ราคาจะไม่ค่อยน่ารักเท่าไหร่ก็ตาม T_____T

 

 ผ้าเช็ดตัวจากร้าน Imabari Towel Shop
ผ้าเช็ดตัวจากร้าน Imabari Towel Shop

 

พี่นนท์บอกว่า ไปที่ไรไม่เคยต่ำกว่าหมื่นบาท ซื้อผ้าเช็ดตัวให้ทั้งครอบครัว ผ้าเช็ดหน้า ผ้าเช็ดหัว ผ้าขนหนูไว้สำหรับไปออกกำลัง รวมแล้วก็หลายอยู่ แต่คุ้มนะ ราคาสูงหน่อย แต่คุณภาพอยู่ในระดับที่เยี่ยมมาก ๆ

 

 เห็นความนุ่มของผ้าเช็ดตัวนั่นไหม แถมลายน้องหมียังน่ารักไปอีก
เห็นความนุ่มของผ้าเช็ดตัวนั่นไหม แถมลายน้องหมียังน่ารักไปอีก

 

เห็นไหมคะว่าการมาเที่ยวญี่ปุ่นครั้งแรกไม่ได้ยากอย่างที่คิด ถ้าเรามีการเตรียมตัวและหาข้อมูลเกี่ยวกับการเดินทางและสถานที่นั้น ๆ มาแล้วก็สบายใจ หายห่วง เที่ยวได้อย่างสบายใจเลยค่ะ ถ้าไปไม่ถูกหรือหลงทาง เราสามารถขอความช่วยเหลือหรือสอบถามจากคนญี่ปุ่นได้เลยค่ะ เขาเต็มใจช่วยเรามากๆ อย่างคืนแรกเราหาทางกลับโรงแรมไม่เจอ คุณลุงคนขับแท๊กซี่บอกให้เราเดินตามเขาไปแล้วก็เดินไปส่งเราถึงปากประตูโรงแรมเลยแหละ ไม่ต้องกลัวว่าจะพูดกับเขาไม่รู้เรื่องนะคะ เราพูดผิดหรือถูกเขาก็พยายามเข้าใจเราและพยายามช่วยเหลือเราจริง

ก่อนจากกัน เราอยากจะขอขอบคุณทุกๆ คนอีกครั้งที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้ หวังว่าเรื่องของเราจะทำให้ทุกๆ คนสนุกและเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อย หวังว่าเราจะมีโอกาสได้มาเล่าเรื่องไร้สาระแบบนี้ให้ทุกคนได้อ่านกันอีกนะคะ หลังจากกลับจากญี่ปุ่นคราวนี้เราสัญญากับตัวเองไว้ว่า เราจะต้องกลับมาเที่ยวญี่ปุ่นให้ได้ปีละหนึ่งครั้ง ต่อให้ต้องไปคนเดียวก็อยากไป เพราะญี่ปุ่นเป็นประเทศที่เที่ยวครั้งเดียวไม่พอจริง ๆ :))

 

สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign

ขอบคุณค่ะ
ก้อย

เรื่องโดย ก้อย
รูปโดย ก้อยและป่าน

ขอบคุณที่ติดตามของนักเขียนใหม่ไฟแรง ฝากติดตามงานต่อ ๆ ไปของน้อง ๆ ด้วยนะครับ
ขอบคุณครับ
นนท์

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *