เที่ยว Kawaguchiko 2 วัน 1 คืน

หลังจากเราพักเรื่องเที่ยว ไปหาเรื่องกินถึง 2 ตอนด้วยกัน
ตอนใหม่นี้ผมขอกลับมาเรื่องเที่ยวล่ะกันครับ

ขอพูดถึงที่คาวากุจิโกะอีกนะครับ อย่าเพิ่งเบื่อกัน สาเหตุคือว่า เพื่อน ๆ โทรมาบอกว่า เมิงรวบรวมให้หน่อยได้มั้ย…ต้องกดอ่านทีละเรื่อง…หาไม่เจอ…ขี้เกียจเปิดไล่
จึงเป็นที่มาของ

ท่องเที่ยวต่างประเทศ [7]

ซึ่งเป็นการสรุปเรื่องเที่ยวที่คาวากุจิโกะ
ขอเชิญพับกบ พบกับ ตอน

พาเที่ยว Kawaguchiko 2 วัน 1 คืน

ผมเคยบ่นกับเพื่อน ๆ เรื่องการไปเที่ยว สมัยนี้มี รีวิว เยอะแยะมากมายให้เลือกหา หลากหลายแบบ แบบไฮโซ แบบโลว์ครอส เงินเดือนเรือนแสนเที่ยวหลักพัน ส่วนผมเงินเดือนหลักพันเที่ยวหลักล้าน ฮาาาา
ซึ่งผมอยากจะรีวิวไปญี่ปุ่นโดยใช้เงิน 2 ล้านเยน รวมทุกอย่าง ปรากฏว่าเอาเข้าจริง วันที่เดินทาง King Power (ผมไม่ได้ค่าโฆษณานะ) ลดพอดี โห เกือบหมดตัวก่อนบินแล้วครับ

ผมไม่ได้อวดร่ำรวยอะไร อายุผมก็เยอะแล้ว ถ้ารู้เงินเดือนเทียบกับอายุ อาจจะตกใจได้ว่ากินอยู่ได้ไงว่ะ ก็ค่อย ๆ เก็บเงินเอาครับ  แล้วไปเที่ยวกับครอบครัวก็สนุกสนาน เฮฮา ตามประสา

การไปเที่ยวสมัยนี้ผมขอแบ่งเป็น 2 แบบจากตัวผมเอง คือ เที่ยวด้วยตัวเอง คือจะเพื่อนพาไป พ่อแม่พาไป ญาติพาเที่ยว ผมขอเรียกว่าเป็นการไปด้วยตัวเอง ไปลุยเอง
อีกแบบคือการ ซื้อทัวร์ไปเที่ยว ก็แบบที่รู้ ๆ กันครับ ซื้อทัวร์ จ่ายตัง ทัวร์จัดการให้เสร็จ เหมาะกับซื้อให้ตัวเองเที่ยวก็ได้ หรือพาผู้ใหญ่ไปเที่ยวก็ได้ ผมว่าสำหรับผู้สูงอายุดีเลย มีคนคอยช่วยเหลือ ไม่ต้องทะเลาะกันระหว่างเที่ยวด้วย

แต่ละแบบมีทั้งข้อดีข้อเสีย เที่ยวเองอาจจะอิสระกว่า ยืดหยุ่น ไม่ต้องรอคนอื่น ส่วนไปกับทัวร์ก็สบายไม่ต้องคิดอะไร เลือกสิ่งที่ดีมาแล้ว เดินทางสะดวก แต่ต้องไปกับคนอื่น ก็อยู่ที่ดวง โชคดีอาจได้ connection ใหม่ ๆ

ราคาก็มีให้เลือกหลากหลาย ผมมักจะเชื่อเสมอ ๆ ว่า คุณภาพก็ตามราคาครับ ของถูกก็มีนะแต่หายากหน่อย หรือฟรีช่วยกันนะน้องก็พอมีนะ แต่คงต้องติดหนี้บุญคุณกันไป อาจจะได้ถูกได้แพง ถ้าไปช่วงเวลาไล่ ๆ กัน คงหนีกันไม่มากต่างกันไม่กี่บาท ต่างช่วงเวลา ราคาก็ต่างกันไปครับทั้งทัวร์ ทั้งไปเองครับ ทัวร์ก็มีหลายแบบจ่ายตังน้อยหน่อยอาหารก็มีอย่างเดียว จ่ายเพิ่มหน่อยอาหารเต็มโต๊ะเลย โรงแรมดีกว่า เดินใกล้กว่า ตามราคาแบบที่ผมบอก แต่จ่ายน้อยก็ไม่ต้องกลัวครับ ถึงแม้จะกินร้านเดียวกัน ก็ไม่ค่อยเห็นอีกทัวร์กินพร้อมกันหรอกครับ ถ้าพร้อมอาจจะแยกโซน แยกห้อง เอาที่สบายใจ เอาแบบที่สดชื่นครับ

เพื่อนผมเป็นนักรีวิวสายราคาไม่สูงนัก นางก็ทำการรีวิวไปญี่ปุ่น ที่พักรวมตั๋วเครื่อง รวม JR Pass 24,000 บาทปรากฏว่าค่าตั๋วก็ล่อเข้าไป 22,000 บาทแล้ว (Low Cost บินช่วงเทศกาล) แต่นางก็เก่งนะ หาราเม็งชามละ 500 เยนกิน ส่วนผมส่งรูปเนื้อ A5 หมื่นกว่าเยน ไปให้นางดูทางไลน์ (เลวมั้ย) นางบอก เราอิ่มเหมือนกัน (นี่!!!!) แต่ฉัน (นาง) อยากกินเหมือนแก (ผม) อ่าว!!!

บางคนชอบโรงแรม บางคนชอบ hostel ชอบโฮม สเตย์ อันนี้ก็แล้วแต่ระบบระเบียบการใช้ชีวิตเลยครับ บางคนของเยอะ ไปไหนมาไหนออกเข้าไม่ตรงเวลา อยู่โรงแรมก็ดีกว่า บางคนสบาย ๆ แบบ hostel ก็น่ารัก ชิลล์ดี

นี่จึงเป็นเหตุผลของแต่ละคนครับ ใครจะเที่ยวแบบไหนก็แล้วแต่ ลองใช้ความคิดเดียวกับผมครับ คือ

เราจะไปเที่ยวอย่างมีความสุขด้วยค่าใช้จ่ายที่เหมาะสม

ดูกว้างเนอะ ง่าย ๆ ก็คือ เราไหวเท่าไหนไปเท่านั้นครับ ดีที่สุดเท่าที่เราไหวครับ

ร่ายมาซะยาว ไปครับ ไปเที่ยว คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) กัน
คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) อยู่ใน จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ภูเขาไฟฟุจิ  (Fuji San)  ซึ่งคาวากุจิโกะ คือ ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) ถ้าเขียนจริง ๆ ต้องเขียนว่า Kawaguchi Ko ผมเดาว่า Ko น่าจะแปลว่า ทะเลสาบ

ดูวิวภูเขาไฟจาก Kawaguchiko ก่อนครับ

เริ่มต้นจาก

ผมเดินทางด้วยสายการบินแห่งชาติไปลงที่ ท่าอากาศยานนานาชาติโตเกียว (จะเรียกให้ยากทำไม) เรามักจะเรียกกันว่า ฮาเนดะ (Haneda) ถ้าไปโตเกียวผมชอบลงที่นี่แหละ ผมว่าคนน้อยดี เลือกเวลาบินออกจากไทย 14.00 ไปถึงญี่ปุ่น 22.00 น. ซึ่งปกติผมจะบินกลางคืน ถึงเช้าเที่ยวเลย แต่ผมเลือกเวลาด้วยที่ว่า แม่แฟนไปด้วยครับ ตอนไปสนามบินจะได้ไม่ต้องตื่นเช้ามาก ไปถึงสัก 11 โมง เผื่อเวลาช็อปสินค้าปลอดภาษี เมื่อไปถึงญี่ปุ่นก็นอน 1 คืน วันรุ่งขึ้นค่อยเที่ยวครับ

เมื่อออกจากด่านตรวจคนเข้าเมืองรับกระเป๋าเรียบร้อย ผมก็นั่งรถบัสของโรงแรม (บริการฟรีของโรงแรมครับ สอบถามจุดจอดรถรับส่งได้ที่ประชาสัมพันธ์ของสนามบินได้เลย) ไปที่ Toyoko Inn Haneda Airport 2  (เช็คราคา https://www.traveloka.com/th-th/hotel/japan/toyoko-inn-tokyo-haneda-kuko-n2-2000000150450) เลือก 1 หรือ 2 ก็ได้ครับ อยู่ข้าง ๆ กัน นอนที่นั่น 1 คืนครับ

หากโรงแรมไม่มีบริการรถ หรืออยากมุ่งตรงเข้าเมืองเลยมีรถบัสของสนามบินไปลงที่ สถานีโตเกียว (Tokyo Station) 930 เยน ครับ ดูรายละเอียดการเดินทางได้ที่ http://www.jnto.or.th/transportation/international-airport-access/haneda-airport/

ตอนเช้าผมแวะไปที่โรงแรมที่จะนอนที่โตเกียว คือที่ Hotel Mystays Asakusabashi (เช็คราคา https://www.traveloka.com/th-th/hotel/japan/hotel-mystays-asakusa-bashi-1000000468277) ผมชอบที่นี่นะครับ ตัวโรงแรมเดินจากสถานนี้รถไฟ 150 เมตร แถวนั้นเป็นดงของกิน มีเยอะมาก เช้า สาย บ่าย เย็น ดึก ค่ำ มีหมด มี Supermarket ใต้โรงแรม เดินทะลุเข้าโรงแรมได้เลย และมี Supermarket อีก 2 ที่ใกล้ ๆ ไม่ถึง 100 เมตร ซึ่ง 1 ในนั้นเป็น Supermarket ขนาดใหญ่ มีผักสด ผลไม้สดขายด้วยนะครับ
ผมแวะไปฝากกระเป๋าครับ และแบ่งเสื้อผ้าลงกระเป๋าใบน้อยไปเที่ยวคาวากุจิโกะ จะได้ไม่ต้องลากให้ลำบาก ซึ่งผมได้ส่งเมล์ไปแจ้งโรงแรมเรื่องกระเป๋าและจำนวนกระเป๋าไว้แล้วครับ จริง ๆ อาจจะไม่ต้องบอกก็ได้ แต่โรงแรมที่ญี่ปุ่นมักจะมีขนาดไม่ใหญ่นัก ผมเลยส่งเรื่องไปก่อนดีกว่า เผื่อความสบายใจเฉย ๆ ครับ ^_^

 

ครัวซองค์ที่ร้าน gontran cherrier
ครัวซองค์ที่ร้าน gontran cherrier

 

จากนั้นผมก็มุ่งหน้าไปที่ ชินจุกุ ครับเพื่อไปขึ้นรถบัส และแล้วก็ถึงเวลาข้าวเช้าครับ จริง ๆ ที่โรงแรม Toyoko Inn ก็มีข้าวเช้านะครับ แต่ผมอยากกิน ครัวซองค์ ที่ร้าน Gontran Cherrier อยู่ตรงทางออกทิศใต้ของสถานีชินจุกุ ผมชอบมาก ๆ เลยร้านนี้ ถ้ามาก็จะพยายามมากินให้ได้ และถ้ามาใกล้เวลาขึ้นรถก็อดกินดิ ผมฝึกเรื่องเวลามาจากกรุงเทพฯ บ้านเราแล้ว ถ้าที่กรุงเทพฯคุณไม่เคยไปไหนช้ากว่าเวลาที่คิดไว้ ที่ญี่ปุ่นก็สบายครับ วางแผนมาดีดี รับรองไม่มีหลุด เพราะระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ ของญี่ปุ่นดีมากครับ รถไฟนี่ตรงเวลาเป๊ะ ๆ เที่ยวตามผมได้เลยครับ เราอาจจะกินข้าวเช้า ข้าวเย็นเวลาเดียวกันเลยได้ครับ

ผมจองรถไว้ 10 โมง 15 นาทีนะครับ ถ้าท่านผู้อ่านลงเครื่องเช้า เผื่อเวลาไปอีกก็ได้ครับ รอบ 11 โมงก็มีนะครับ

 


 

จองตั๋วรถบัสไป คาวากุจิโกะ  (Kawaguchiko)

จองจากที่ประเทศไทยเลยครับ ทำการจองตั๋วรถบัสที่ http://highway-buses.jp/thai/fuji/
จองวันและเวลาเดินทางให้เรียบร้อยนะครับ ส่วนท่านใดอยากเดินทางโดยรถไฟ อ่านข้อต่อไปได้เลย
ซึ่งวิธีการต่าง ๆ อย่างละเอียด ดูที่ http://www.nontdesign.com/kawaguchiko-bus/

 


 

วิธีไปคาวากุจิโกะ  (Kawaguchiko)

โดยรถบัส และรถไฟ

ผมจะเริ่มจาก สถานีรถไฟชินจุกุ (新宿駅 Shinjuku-eki) นะครับ ซึ่ง วิธีการไปทั้งรถไฟและรสบัส ดูได้ที่ http://www.nontdesign.com/ไป-kawaguchiko-โดยรถบัส/

 


 

เที่ยงตรงเราจะถึงที่ สถานีคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko Station) ได้เวลาอาหารกลางวันครับ

กินอาหารกลางวันที่  HOTO FUDO

เมื่อมาถึง คาวากุจิโกะ ต้องลองกิน Hoto โฮโต (ほうとう) ซึ่งเป็นอาหารท้องถิ่นของ จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ร้านตุ้งอยู่ตรงข้ามสถานีคาวากุจิโกะ เดินข้ามถนนไปกินได้เลย
เมนูอาหาร รูปอาหาร รายละเอียดต่าง ๆ ที่ http://www.nontdesign.com/kawaguchiko-food/

 


 

ไปเจดีย์ ชูเรโตะ  (Chureito Pagoda)

อิ่มท้องแล้วก็เดินข้ามฝั่งกลับไปตั้งหลักที่สถานีคาวากุจิโกะ ผมขึ้น taxi ไปเที่ยวที่ เจดีย์ ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ลุงคนขับรอรับกลับครับ ท่านผู้อ่านจะเลือกขึ้น taxi หรือจะขึ้นรถไฟก็ได้ครับ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://www.nontdesign.com/chureito-pagoda/

 


 

กินชีสเค้กที่ Cheese Cake Garden

จุใจกับวิวสวย ๆ ที่ เจดีย์แดง 5 ชั้น เป็นที่เรียบร้อย เราไปแวะกินชีสเค้กที่ Cheese Cake Garden แบบที่ผมเกริ่นไปตอนแรกครับ ผมพาแม่แฟนไปด้วย เดินเยอะ ๆ จะไม่ไหวได้ เที่ยวไปพักไป ผู้อ่านท่านอื่นอยากไปเที่ยวเพิ่มเติมอ่านต่อได้ที่ http://www.nontdesign.com/kawaguchiko-cheese-cake-garden/ นอกจากเรื่องชีสเค้กแล้ว ผมมีอธิบายเรื่องซื้อตั๋วรสบัสเที่ยวรอบคาวากุจิโกะไว้นิดหน่อยครับ

 


 

Shuhokaku Kogetsu โรงแรมที่เห็นวิวฟูจิเต็ม ๆ

กินข้าว เที่ยว กินหนมเสร็จ สักบ่าย 3 บ่าย 4 ผมก็ไปที่โรงแรมครับ ไปใช้ค่าที่พักให้คุ้ม 5555555 (จริง ๆ ก็เก็บแรงไว้ช้อปปิ้งวันต่อ ๆ ไปครับ)
ผมเลือกพักที่ ชูโฮคาคุ โคเก็ตซึ  (Shuhokaku Kogetsu) ราคาเท่าไหร่ วิวสวยยังไง ตามไปดูที่ http://www.nontdesign.com/shuhokaku-kogetsu-kawaguchiko/
จองโรงแรมที่ http://www.kogetu.com.e.eg.hp.transer.com

 

หลังจากที่เราพักผ่อนที่โรงแรมอย่างเต็มที่แล้ว วันรุ่งขึ้นผมก็กลับไปที่ชินจุกุนะครับ

ผมได้รวบรวม Clip ใน YouTube ทั้งหมดที่เกี่ยวกับ คาวากุจิโกะ ไว้เป็น Playlist นะครับ ไปดูกันได้ครับ

 

 

ขอบพระคุณ
นนท์
วันว่าง Before Valentine

สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *