ท่องเที่ยวต่างประเทศ [8]
หลังจากที่ผมขอหยุดพักในช่วงปีใหม่ไทยของเรา วันนี้ผมกลับมาแล้วครับ พร้อมกับคำว่า สวัสดีปีใหม่ ขอให้ทุกท่านมีความสุขมาก ๆ ในปีนี้และปีต่อ ๆ ไปนะครับ
ตอนนี้ผมจะขอพาไปเที่ยวญี่ปุ่นครับ แต่ค่อนข้างจะแหวกออกไปสักหน่อย คือไม่ได้พาไปเที่ยวที่สถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ หรือที่ฮ็อตฮิตยอดนิยม แต่ผมจะพาไปกินกาแฟที่
ย่านกาแฟ Kiyosumi Shirakawa
ย่านกาแฟนี้อยู่ใน โตเกียว (Tokyo) ซึ่งตอนแรกที่ผมบอกทุกคนว่าจะไปที่นี่นะ มีแต่คนไม่เห็นด้วย ทำไมไม่พาไปซื้อโมเดล ซื้อขนม อะไรทำนองนั้น เพราะกาแฟญี่ปุ่นก็ไม่ได้ดัง และก็ไม่ได้ดีมากถึงกับต้องไปแสวงหาเพื่อจะกิน (อ่าว) ที่ผมบอกแบบนี้ไม่ใช่ว่าอยากจะดราม่านะครับ แต่เป็นความคิดของคนส่วนใหญ่จริง ๆ ที่มักจะบอกว่ากาแฟญี่ปุ่นไม่อร่อย อาจจะเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ไม่ค่อยจะได้ยินเมล็ดกาแฟที่มาจากญี่ปุ่น จากบ้านเรายังพอมีไปขายต่างประเทศบ้าง หรือคนที่ไปเที่ยวญี่ปุ่นก็จะเน้นไปทางเข้าร้านขนม ไม่ได้เข้าร้านกาแฟกัน หรือถ้าเข้าก็จะเข้าสตาร์บัค ไปกินพวกเมนูตามฤดูกาล (ผมมักจะไปลองกินบ่อย ๆ ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง) ดังนั้นผมจึงขอพาท่านผู้อ่านที่เคารพรักของผมไปกินกาแฟที่ญี่ปุ่นกันครับ (และถ้าหากว่าผมตกงานเมื่อไหร่ ผมจะไปตระเวนกินกาแฟที่โตเกียวแบบเจาะลึกมาให้ทุกท่านได้อ่านกันนะครับ)
เริ่มกันเลยครับ
ไม่ว่าเราจะอยู่จุดไหน ขอให้ขึ้นรถไฟไปลงที่ Kiyosumi-shirakawa Station ให้ออกที่ทางออก A3 ครับ เดินชิลล์ 1 กิโลเมตร ประมาณ 10 – 15 นาทีครับ ก็จะถึงร้านแรก ซึ่งผมจะกินอาหารเช้าที่ร้านนี้ด้วยครับ (ผมใส่แผนที่ไว้ให้ตอนท้ายเรื่องนะครับ) ซึ่งร้านมีชื่อว่า
Allpress Espresso Tokyo Roastery & Cafe
ร้าน Allpress Espresso ร้านที่ถูกส่งตรงมาจาก ประเทศนิวซีแลนด์ (New Zealand) มาเปิดสาขาที่ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งเมื่อเราเดินมาถึงหน้าร้านแล้ว จะต้องสะดุดตาด้วยอาคารที่ประดับด้วยไม้ระแนง หากดูแค่ภายนอกที่แสนโอ่อ่า แต่ว่าภายในที่นั่งน้อยมากเลย (เท่าที่ผมเห็นนะครับ ถ้ามีตรงอื่นอีกต้องขออภัยนะครับ) ยิ่งทำให้น้ำลายในปากแตกฟองไปใหญ่เลยครับ ไม่ใช่ที่นั่งน้อย ๆ จะทำให้ดูแบบว่าต้องต่อคิวกิน หรือต้องรอนานแล้วทำให้อร่อยนะครับ สิ่งที่ผมคิดคือ ร้านนี้ต้องเจ๋งแน่ ๆ เพราะเขาให้พื้นที่ในการผลิตกาแฟแบบจัดเต็ม เราต้องได้อาหารและเครื่องดื่มชั้นยอดแน่นอน
อาหารไม่ต้องคิดมากเลยครับ ผมสั่ง Cold Brew (600 เยน) ครับ ผมมักจะกินบ่อย ๆ ที่กินบ่อยอาจจะเพราะกินง่ายด้วยครับ ไปที่ไหนก็กินที่นั่น ถ้าเทียบกันกับชงแบบธรรมดาใช้เมล็ดเดียวกัน ผมว่ารสชาติจะเข้มข้นกว่าและติดหวานกว่านิดหน่อย จริงแล้วคือการชงแบบนี้ทำให้กรดออกมาน้อยครับ ประมาณว่าเปรี้ยวน้อย หวานก็เลยโผล่ครับ
ส่วน Cold Brew คืออะไรหรอ ผมก็ถามมานะครับไม่ได้มีความรู้เลย คือเป็นการชงด้วยน้ำเย็น โดยปล่อยให้น้ำเย็นไหลผ่านกาแฟแล้วหยดไปเรื่อย ๆ สัก 7 – 9 ชั่วโมงถึงจะได้แก้วใหญ่สักแก้วครับ
อีกอย่างที่ต้องชิมคือ กาแฟดริป (Drip Coffee 550 เยน) ครับ ผมเลือกเมล็ดกาแฟจากญี่ปุ่น ชื่อว่า Kiba ครับ ชื่อนี้มาจากชื่อสวนสาธารณะที่โตเกียวครับ รสชาติดีเลยนะครับ ผมชอบ รสชาติผสมผสานกับช็อกโกแลต คาราเมลและปิดท้ายด้วยกลิ่นส้ม เปรี้ยวนิดหน่อยปลาย ๆ สดชื่นดี อาจจะเพราะความจริงแล้ว ผมเป็นคนชอบกาแฟติดสดชื่น แบบดูดกาแฟเย็นเข้าไปแล้วเหมือนยืนใกล้ ๆ น้ำตก เย็นสดชื่นดี (ดูขัดกับกาแฟนะ) ถ้าเจอแบบกาแฟแถบ ๆ บ้านเรา เข้มจัด มีกลิ่นดินหน่อย ๆ ผมต้องรบกวนขอน้ำเชื่อมเลยครับ ซึ่งแฟนผมชอบแบบนี้ครับ รสเข้มหน่อย ไม่มีกลิ่นผลไม้ ไม่เปรี้ยว
พวกกาแฟดูในคลิปได้เลยครับ ผมลืมถ่ายภาพนิ่งมาครับ ขอโทษครับ U_U
อาหารเช้าผมเริ่มจากขนมปังทาเนยครับ และ แซนวิสประจำวัน (Sandwich of the day 800 เยน) ครับ วันที่ผมไปเป็นเนื้อครับ ใส่มะเขือเทศและผักโขมด้วย อร่อยดีครับ หรือเราจะผสมเองก็ได้นะครับ เลือกขนมปังเลือกไส้ หรือสั่งเป็น Mixed Plates (มีหลายราคาแล้วแต่เราเลือกครับ) มาก็ได้ครับ อีกอย่างที่อร่อยมาก ๆ นุ่มนิ่มไส้ล้น คือ เบเกิล (Bagle 800 เยน) ครับ เป็นขนมปังรูปทรงกลมแบนคล้ายโดนัท ผ่ากลางใส่ไส้ ทูน่า ที่คลุกเคล้ากับ ไข่ต้ม พาร์สลีย์ มายองเนส ผสม วาซาบิ เล็กน้อย อบจนหอมฟุ้งไปทั้งร้าน
และที่ห้ามพลาดคือ ขนมปังฝรั่งเศส (Baguette) ไส้ โปรโวโลน ชีส (Provolone Cheese) และ Prosciutto หรือที่เรารู้จักกันในนามว่า พาร์มาแฮม (Parma Ham) นั่นเอง เมื่อขนมปังแข็ง ๆ อบกรอบ บวกกับแฮมชีสใส่มัสตาร์ดเล็กน้อย สนนราคา 800 เยน ฟินนนนนนน!!! อย่าลืมตบท้ายด้วยคุกกี้กับกาแฟร้อนนะครับ
https://allpressespresso.com/discover/tokyo-roastery
จบร้านแรก ไปต่อกันที่ร้านกาแฟชื่อดังอีกร้านชื่อว่า กาแฟขวดสีฟ้า เดินต่อไปอีกนิดหน่อย มีสาขาที่ชินจูกุด้วยนะครับ ผมชอบแวะเข้าไปซื้อกาแฟบ่อย ๆ
Blue Bottle Coffee
กาแฟขวดสีฟ้านี้มาจาก สหรัฐอเมริกา ครับ ดูเข้ากันมาก ๆ กับประเทศญี่ปุ่น ด้วยรูปลักษณ์เป็นขวดสีฟ้าดูน้อย ๆ แต่มีอะไรซ่อนอยู่ ไม่น่าเชื่อว่าแค่ขวดสีฟ้านี่จะดึงดูดลูกค้ามากมายให้อยากเข้าไปในร้าน ทำให้ลูกค้าแน่นทั้งวัน ซึ่งถ้าผมทำร้านก็อยากให้มีลูกค้าเยอะ ๆ แต่สบาย ๆ แบบนี้เลยครับ
เมื่อเข้าไปด้านใน เราจะพบร้านกาแฟแบบคุมโทนครับ เน้นสี ขาว ดำ เทา กรมท่า minimal เท่ ๆ แถมด้วยครัวแบบเปิดโล่ง มีพนักงานชายหญิงออกมาร่ายรำวิทยายุทธ์ ชงกาแฟ รับออเดอร์ คิดตัง อยู่ในบาร์ที่ยาวเหยียดลวดลายเหมือนเศษไม้มาแปะ ๆๆๆ เยอะ ๆ ครับ เหมือนเรามาดูละครเวทีเลยครับ
เหมือนเดิมครับ ผมสั่ง Cold Brew และกาแฟ ดริป ของร้านเขาครับ เพิ่มเติมมาอีก 1 คือ ลาเต้ (Latte) ต้องขออภัยที่ผมไม่ได้จดราคามาเลยครับ มั่วแต่คุยนู้นนี้กับน้องพนักงาน ได้กาแฟแล้วเดินออกมาเลย U_U เอาจากที่จำได้คร่าว ๆ คือ ลาเต้ 520 เยน และ ดริป (Single Origin) 550 เยน ครับ
ผมขอเปรียบเทียบกับ Allpress Espresso แค่ Cold Brew นะครับ ตามความรู้สึกผมนะครับ ไม่ได้ผ่านความรู้หรือทฤษฎีอะไร ถ้าผิดพลาดต้องขออภัยครับ ผมว่า Cold Brew ที่นี่กินง่ายกว่าครับ เพราะมันขมน้อยกว่า และกลิ่นอ่อนกว่านิดหน่อยครับ แต่ความเข้มนี่ ผมว่าพอ ๆ กันเลยครับ
latte ก็ตามสไตล์ครับ นมเยอะ ปรึดแรกเป็นนม มีกลิ่นและรสชาติกาแฟตามมาต่ออย่างชัดเจน ส่วนดริป ผมเลือกจากประเทศ เคนย่า (Kenya) ครับ และที่เขียนว่า Single Origin คือ กาแฟที่นำมาจากแหล่งปลูกแหล่งที่เดียวเลยครับ ไม่ได้นำมา ผสม (Blend) กับเมล็ดกาแฟจากแหล่งอื่น ซึ่งเคนย่านี่แหละครับคือเมล็ดกาแฟที่ผมรักที่สุดเลยครับ แบบที่บอกผมชอบกาแฟแบบสดชื่น ๆ และเคนย่านี้แหละ กลิ่นและรสมะนาวบ้าง ส้มบ้าง บางทีก็เป็นเกรปฟรุต อากาศร้อน ๆ แบบบ้านเรานี่สุดยอดครับ จริง ๆ มีสดชื่นกว่านะครับ แต่แพงแหละ ลองไปชิมกันดูได้ครับ ถ้าที่บ้านเราก็มีขายที่สตาร์บัคครับ
แล้วก็มาถึงร้านสุดท้ายครับ จริง ๆ ในย่านนี้มีอีกหลายร้านที่เป็นสุดยอดของร้านกาแฟ แต่ว่าไม่ไหวแล้วครับ ตอนนี้ (คือไม่ได้หยาบนะครับ) ปัสสาวะผมนี่เป็นกลิ่นกาแฟหลายชาติแล้วครับ ฮาาาาาาาาาา จะจบแค่ 2 ร้านก็จะหาว่าผมบอกว่ากาแฟญี่ปุ่นอร่อย ไหนมารีวิวแต่ร้านต่างชาติ ผมจึงขอปิดท้ายด้วยร้านกาแฟของคนญี่ปุ่นที่สุดยอดมาก ๆ ครับ
ARiSE COFFEE ROASTERS
ร้านนี้ตั้งอยู่ตรงหัวมุมเลยครับ เป็นร้านเล็ก ๆ ซึ่งความจริงตอนแรกผมจะเดินผ่านครับ แต่สะดุดแทบล้ม แบบว่าเบรกตัวอย่างแรง เพราะว่าเห็นคำว่า เลื่อน ที่ประตูของร้านนี้ ตาไม่ฝาดครับ คำว่า เลื่อน เป็นภาษาไทยเลยครับ เฮ้ย เข้าไปหน่อยดีกว่า หรือข้างในจะมีคนไทย เวลาเจอคนไทยที่เมืองนอกก็ดีใจครับ คนบ้านเดียวกัน
เมื่อเข้าไปก็ตกใจครับ ร้านเล็กมาก มีที่นั่งแบบสบาย ๆ กึ่งนอน 2 – 3 ที่ มีเครื่องคั่วกาแฟและกระสอบกาแฟมากมายพร้อมเคาท์เตอร์เล็ก ๆ ตกแต่งด้วยป้ายทีมฟุตบอลบุรีรัมย์และเขาควายที่คุ้นตา เฮ้ย!!! ร้านพี่แอ๊ด คาราบาวเปล่าเนี่ย ที่ไหนได้เจ้าของร้านชื่อ Hayashi Taiju เป็นคนญี่ปุ่น แต่มีเพื่อนคนไทยมากมายเลยแหละครับ ตอนแรกยังไม่คุยกัน ผมก็สั่งกาแฟก่อนเลย ดริป เหมือนเดิมครับ ผมเลือกตามคำแนะนำของฮายาชิ เขาแหละครับ ได้ความว่าเลือกเมล็ดจาก สาธารณรัฐโดมินิกัน
ระหว่างรอกาแฟ ผมก็นั่งคุยกับแฟนผม ฮายาชิได้ยินภาษาไทย จึงพูด สวัสดีครับ ใส่ผม ผมถึงกับงง ซึ่งญี่ปุ่นหัวใจไทยคนนี้ มาเมืองไทย พอ ๆ กับผมไปญี่ปุ่นเลย เขามาร่วมงานกาแฟที่บ้านเราด้วยนะครับ มีเมล็ดกาแฟจากบ้านเราขายด้วย เสื้อที่ใส่อยู่ยังเป็นภาษาไทยเลย
ผมสอบถามเขาเรื่องมาทำอะไรที่ไทยบ่อย ๆ คุยกันสักพักก่อนจะออกจากร้าน ผมเหลือบไปเห็นในร้านก็มีรูปกษัตริย์รัชกาลที่ 9 ของประเทศไทยติดอยู่ ทั้งเขาและลูกค้าอีกคนในร้านที่เป็นคนญี่ปุ่นก็แสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ผมนี่น้ำตาคลอ ตอบไปว่า ขอบคุณมาก ๆ ชำระค่ากาแฟแล้วออกจากร้าน พอพ้นประตูร้านเท่านั้นแหละน้ำตาก็ไหลเลย รสชาติกาแฟไม่ต้องพูดถึงครับ จิบไปนิดเดียว ก่อนจะได้กินอีกทีตอนตั้งหลักได้ก็เย็นเสียแล้ว แต่ก็ยกซดจนหมดแก้ว รสชาติยังเยี่ยมอยู่ ผมเลยไม่กล้ารีวิวเลย ไว้คราวหน้าผมจะไปชิมใหม่นะครับ
คลิปครับ\
ขอบคุณครับ
นนท์
สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign