กินอะไรดี ซื้อกินดีกว่า [4]
วันนี้วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 บอกทำไมหน่ะหรอ ก็เพราะว่า อีก 4 วันจะเป็น วันมาฆบูชา และ วันที่ 14 กุมภาพันธ์จะเป็น วันวาเลนไทน์ (Valentine’s Day) บอกแล้วไงต่อ มันเกี่ยวกันมั้ย
คืองี้ บทความที่ท่านกำลังอ่านอยู่นี่คือ ตอนที่ 4 ของ คอลัมน์กินอะไรดี ซื้อกินดีกว่า ซึ่ง 3 ตอนแรกเป็นร้านที่อยู่ในต่างประเทศทั้งหมด ดังนั้นเราจึงขอเอาฤกษ์เอาชัย เปิดตัวร้านแรกที่อยู่ในประเทศของคอลัมน์นี้ ด้วยร้านไอติมที่ชื่อว่า
MINT MINT Homemade Icecream & Dessert
ของ น้องมิ้นท์ รุจิเรศ บุญผ่องศรี สาวตัวน้อยแต่มากความสามารถ เธอมีฉายาด้วยนะ ได้ยินแล้วอาจจะต้องร้องอ๋อ เธอคือ มิ้นท์เจ้าหญิง 10 ล้านวอน นั่นเอง เธอเป็นทั้งพิธีกร, DJ และยังเป็นนักแสดงสังกัด mono ที่เล่นซีรีย์เรื่อง Angel นางฟ้าล่าผี ซึ่งสิ่งที่นางทำอยู่ ผมก็ว่าเยอะแล้วนะ แต่เธอยังเจียดเวลามาเป็นแม่ค้าขายไอติม ไม่ได้ขายอย่างเดียวนะ ทำเอง ผลิตเองทุกขั้นตอน
ร้านไอติมแห่งนี้จึงมีชื่อว่า Mint Mint (มิ้นท์ มิ้นท์) นั่นเอง ซึ่งก็มาจากชื่อเล่นของน้อง แถมมิ้นท์ยังเป็นรสชาติของไอติมอีก ส่วน Homemade Ice Cream & Dessert เป็นเหมือนคำสร้อยบอกว่าที่นี่ขายอะไร ขายไอศกรีม (ผมขอเรียกไอติมนะ น่ารักเข้ากับน้องเขาดี) และขนมหวาน
ร้านนี้ตั้งอยู่ที่ THE AVENUE แจ้งวัฒนะ บนชั้น 2 ฝั่งโรงหนัง จะเห็นร้านสีเขียวมิ้นท์ ตัวอักษรชื่อร้านเป็นสีชมพูสดใส มองเห็นได้จากชั้นล่างเลย ส่วนตัว Avenue ต้องสังเกตดี ๆ หน่อย ขับเร็ว ๆ อาจจะเลยได้
ภายในร้านเป็นการตกแต่งแบบผู้หญิ้ง ผู้หญิง พอเข้าไปถึงก็ต้องแอบอมยิ้มเล็ก ๆ (จะแอบทำไม) เพราะทั้งร้านถูกทาสีเขียวมิ้นท์สลับกับสีชมพู โต๊ะและเก้าอี้ที่ทำจากไม้ถูกทาสีด้วยสีเดียวกับตัวร้านสลับสีกันไป ตกแต่งด้วยตุ๊กตาน่ารัก ๆ ดอกไม้แห้งในแจกันแสนเก๋และของเล่นเด็กต่างถูกวางบนโต๊ะ สดใสสมกับเป็นร้านเจ้าหญิง 10 ล้านวอนจริง ๆ
ด้านซ้ายของร้านจะเป็นเคาท์เตอร์ มีตู้ไอติมอยู่ด้านข้าง ด้านบนเป็นชื่อร้านสีแดงแขวนจากเพดานติดไฟหลอดกลมแนวเรโทร (Retro) สว่างไสว เลือกนั่งได้ตามสะดวกเลยครับ ซึ่งทางขวาจะมีเคาท์เตอร์อีกตัว มีน้ำเปล่าวางไว้ให้ลูกค้าดื่ม พร้อมหนังสือทำขนมไปจนถึงนิตยสารให้ลูกค้าไปหยิบมาอ่านได้ ถัดจากนั้นเป็นที่นั่งแบบเก้าอี้เบาะยาวไปจนสุดร้าน และยังมีแบบเคาท์เตอร์บาร์ให้นั่งมองไปยังภายนอกร้านอีกด้วย
เมื่อน้องมิ้นท์ เจ้าของร้านเดินมารับออเดอร์ แผ่นดินก็สั่นไหว ไม่เจอกันนาน น้องอ้วนขึ้นนั่นเอง (คือไม่ได้เจอกันนานมาก ๆ ผมเคยขอให้น้องไปเป็นนางแบบถ่ายรูปตั้งแต่สมัยเด็ก ๆ ตามไปดูรูป คลิก) เฮ้ย!!!!! ไม่ใช่อ้วน
ความน่ารักเพิ่มขึ้นต่างหาก (แอบชมหวังให้ตักไอติมก้อนใหญ่ ๆ) ว่ากันว่าร้านนี้หน้าตาดีทั้งร้าน เรามาพิสูจน์กันว่าที่ร้านนี้คนเยอะเพราะขนมอร่อยหรือว่าเป็นแฟนคลับเจ้าของร้านกันแน่
ผมเริ่มจากการสั่ง ชาไทยปั่น 95 บาท มาลองก่อน วันนั้นร้อนมากครับมากขออะไรเย็น ๆ แล้วค่อยเริ่มดูเมนู ซึ่งมีขนมให้เลือกเยอะมาก ๆ เลือกไม่ถูก จึงยื่นข้อเสนอให้เจ้าของร้าน Proud to Present อะไร แบบว่าไม่ต้องขายดีก็ได้ เอาแบบอยากให้กินอะ
น้องมิ้นท์แนะนำ บราวนี่กระทะร้อน ราคา 165 บาท นางบอกไม่ค่อยหวานมาก ผู้ใหญ่ชอบ ซึ่งผมกะแฟนก็อายุ 30 ปี เป็นผู้ใหญ่แล้ว น่าจะเหมาะ U_U ตอนแรกผมก็แอบคิดนะ บราวนี่วางบนกระทะมันร้อน ด้านล่างบราวนี่ที่สัมผัสกระทะจะกระด้างมั้ย และไอติมด้านบนจะละลายมั้ย ทำไมต้องกระทะร้อน ไม่ใช่หอยทอดหรือคอหมูย่างซะหน่อย
บราวนี่ กระทะร้อน
สักพักนางก็ยกกระทะร้อนมาเป็น ช็อคโกแลตบราวนี่ (Chocolate Brownie)วางบนกระทะมี มาร์ชแมลโลว์ (Marshmallow) วางรอบ ๆ ด้านบนบราวนี่เป็น ไอติมคาราเมล กับ วิปด์ครีม (Whipped Cream) วางลงบนโต๊ะ พร้อมกับพูดว่า ราดเลยนะคะ ผมก็เดี๋ยว ๆ พี่ขอตั้งกล้องก่อน และนางก็ราด ซอสช็อคโกแลต ลงไปทันที เกือบไม่ได้ภาพมาลงเว็บ มุมไม่ค่อยดีเท่าไร่ แต่รสชาติอร่อยครับ ผมเป็นชอบกินบราวนี่นะ ที่ไหนดัง ที่ไหนดีไปตามกินมาหมด และจะไม่ค่อยกินร้านที่ไม่เคยกิน กลัวไม่อร่อย (นิสัยไม่ค่อยดีเลย แต่เคยไปกินแล้วแบบไม่ชอบอ่า เสียใจ เลยกลัว) แต่บราวนี่นางอร่อย เข้ากั๊น เข้ากันกับไอติม และซอสที่ราดลงไป
ถ้วยต่อมาคือ Cup E ราคา 175 บาท ชื่อดูน่ากลัวไปหน่อย จะหายใจออกมั้ยว่ะเนี่ย ฟังชื่อก็นึกไม่ออก ซึ่งที่มาของชื่อต้องไปถามเจ้าของร้านเองนะ เอาเป็นว่ามีไอติมวานิลลา เค้ก วิปด์ครีม สตรอว์เบอร์รี่ 2 ลูก และใส่เหล้าช็อคโกแลตด้วยนะ
Cup E
ผมว่าอันนี้ก็ดีอีกเช่นกันครับ ไอติมวานิลลารสชาติเยี่ยม กลิ่นวานิลลากำลังดีแต่ไม่ฉุน น้องบอกว่าใส่ฝักวานิลลาด้วย และเนื้อไอติมค่อนข้างเหนียว จึงเข้ากันได้อย่างดีกับเค้กเนื้อนิ่มและสตรอว์เบอร์รี่ที่รสออกเปรี้ยวนิด ๆ แถมได้กลิ่นเหล้าเล็กน้อย หอมดีนะ
ยังมีอีกหลายเมนูที่ผมอยากลองนะ ไม่ว่าจะเป็น Hot Caramel Banana, โทสชาไทย, Chocolate Lava, Banoffee Glass, Lady Caramel โหอีกเยอะเลย แต่เกือบอิ่มแล้วอะ ขืนสั่งมาอีกไม่ไหวแน่ ๆ อยากเก็บท้องที่เหลือไว้กินไอติมแบบเพียว ๆ ลองลิ้มชิมรสไอติมแบบไม่ใส่ซอสอะไรเลย พิสูจน์กันเป็นรส ๆ ไป เลยจัดมา 7 รส ลงในหม้อเดียวกัน
ระหว่างที่รอน้องมิ้นท์ตักไอติมนั้น ผมก็มองเห็นสาวน้อยอีกคนนึง เธอชื่อ แหม่ม ครับ เป็นพี่สาวแท้ของมิ้นท์ ซึ่งหน้าตาก็ไม่แพ้น้องสาวเลยทีเดียว อาจจะแฟนคลับเยอะกว่าน้องสาวด้วยนะเนี่ย สอบถามได้ความว่า พี่สาวผู้นี้คือผู้ที่อยู่เบื้องหลังความอร่อยของขนม ความสวยงามของร้าน ความนู้นความนี่หลายอย่าง พูดง่าย ๆ คือ อยู่กับมิ้นท์ตลอด คอยช่วยน้องสาวตลอดนั่นเอง
ไอติมหม้อไฟ
ไอติมตอนนี้มีทั้งหมด 10 รส สามารถสั่งใส่หม้อไฟได้หลาย ๆ ลูก สนนราคาลูกละ 50 บาท น้องบอกว่าจะมีเพิ่มรสชาติอีก เช่น รสกะทิ รสเผือก ไว้ลองไปชิมกันนะครับ
ที่ลองชิมมีรส สตรอว์เบอร์รี่ คาราเมล มอคค่า มิ้นท์ กล้วย ชาไทย ช็อคโกแลต และผมเหลือบไปเห็น ชาเขียว จึงของให้น้องใส่ถ้วยแยกมาครับ อีก 2 รสที่ไม่ได้ชิมคือ วานิลลา กับ ช็อคโกแลต Sugar Free
ผมขอวิจารณ์ตามที่ผมชอบนะครับ ที่ต้องออกตัวก่อน เพราะไอติมแบบนี้ผมชอบแบบเนื้อแน่น เหนียว ๆ จะไม่ค่อยกินรสผลไม้ ถ้าเป็นแบบ Soft Cream ชอบทุกรสนะครับทั้งผลไม้ โยเกิร์ต หรือพวกนม ๆ ซึ่งเนื้อ Soft Cream ก็ต้องนุ่มเนียน เบาบาง ไม่หนัก ถ้าเป็นรสผลไม้ที่ออกไปทางเปรี้ยวผมจะชอบแบบเนื้อเป็นลักษณะเกล็ดน้ำแข็งครับ
รสสตรอว์เบอร์รี่ รสนี้เนื้อโอเคเลย ผมไม่ค่อยกินไอติมแบบนี้ที่เป็นรสผลไม้ ขอข้าม ไม่วิจารณ์นะครับ
คาราเมล ผมชอบรสนี้เป็นทุนเดิม ยิ่งเป็น Salt Caramel นี่กรี๊ดเลย แต่รสนี้ค่อนข้างผิดคาด กินเข้าไปแล้ว หวานน้อย แต่กลิ่นของคาราเมลชัด ผมชินแต่คาราเมลหวาน ๆ ไม่รู้มิ้นท์ทำยังไง จะเถียงว่าไม่ใช่คาราเมลก็ไม่ได้ เพราะมีกลิ่นและรสชาติอยู่ แรก ๆ ก็แปลก งง ๆ กินไปเรื่อย ๆ ชักชอบ แต่อาจจะไม่ถูกใจคนชอบหวาน ๆ ส่วนผมคิดว่าแบบนี้ก็ดีนะ กินได้เป็นถังแบบไม่เลี่ยนเลยล่ะ
มอคค่า รสนี้สั้น ๆ ง่าย ๆ ผมบอกน้องไปว่า ถ้าไอติมจะอร่อยขนาดนี้ ขายกาแฟสดเพิ่มเถอะ
มิ้นท์ ปกติผมไม่กินรสนี้เลย เคยกินมิ้นท์ครั้งแรกนึกว่ากินยาสีฟัน ความทรงจำครั้งแรกเลยทำให้กลัวมาจนทุกวันนี้ คราวนี้ลองก็ได้ นางบอกว่ากลิ่นไม่จัด รสกำลังดี ก็จริงนะ เอาเป็นว่าใครไม่เคยกินรสมิ้นท์ให้ลองดูนะครับ
กล้วย รสนี้ผมไม่ค่อยมีปัญหา แต่แฟนผมนี่สิ ไม่ค่อยชอบกลิ่นกล้วย อันนี้กินได้ ซึ่งมิ้นท์ว่าใช้นมกล้วยจากญี่ปุ่น กลิ่นเลยไม่ค่อยแรง
ชาไทย อันนี้ก็ทำให้ถูกใจแต่ละคนยากนะ เคยกินมา ชาแรงไปบ้าง นมเยอะบ้าง หวานโดดบ้าง ร้านนี้ทำได้เข้ากันดี ออกไปทางหวานน้อยด้วยซ้ำ เอาใจคนรักสุขภาพแต่อยากกินไอติม เหมือนเดิมครับ อาจจะไม่ถูกใจคนชอบกินไอติมหวาน ๆ ถ้าคนชอบหวานนะ ผมว่าราดนมข้นหน่อยได้เลยแหละ
ช็อคโกแลต รสนี้ก็คล้าย ๆ กับชาไทยนะผมว่า หาจุดลงตัวยากครับ แล้วแต่คนชอบ ผมไม่ใช่แฟนช็อคโกแลตซะด้วย กินเข้าไปก็เป็นช็อคโกแลตจริง ๆ (อ่าว ก็คือไอติมช็อคโกแลตจะเป็นรสอื่นได้ไง ฮาาาา) ก็คือเป็นรสช็อคโกแลต 100% เข้ากันกับความมันของนมดีเลยครับ
ชาเขียว รสนี้ตอนแรกไม่อยู่ในสายตาเลย รสนี้กินมาหลายที่มาก ชอบบ้างไม่ชอบบ้าง น้องก็ทำได้ดีเช่นเคย
รูปชาเขียวนี่ถ่ายไม่ทันจริง ๆ ครับ เหลือแต่ซากไม่ค่อยหน้าดูเท่าไหร่ Y_Y
เห็นผมชมทุกรสไม่ติอะไรเลยหรอ ผมว่าน้องทำได้อร่อยเลยล่ะ วัตถุดิบดี ฝีมือได้ ความตั้งใจล้น ประกอบกับที่มิ้นท์เป็นคนชอบกินไอติมอยู่แล้ว เลยรู้ว่าอะไรดี รสชาติไอติมของมิ้นท์จึงยากจะอธิบายได้ว่าดีแบบไหน ผมจึงขอใช้คำว่า กลมกล่อม ละกัน คำนี้น่าจะอธิบายได้ดีที่สุด เพราะว่า มิ้นท์ทำไอติมรสชาติไหน สิ่งนั้นก็จะโดดเด่นออกมาแบบพอดี เรียกว่าถูกจริตผมจริง ๆ ไม่มากจนฉุน ไม่น้อยจนไม่รู้สึก แต่คำว่ากลมกล่อม อาจจะเป็นจุดอ่อนนะครับ บางคนชอบรสชาติไอติมชัดจัด ๆ มาก ๆ หรือชอบหวาน ๆ อาจจะไม่ชอบ
เอาเป็นว่ามาลองชิมกันดูนะครับ สรุปคือนางไม่ได้มีดีแค่รูปลักษณ์ภายนอกแค่นั้นนะครับ ฝีมือทำขนมก็แซ่บมาก ๆ ซึ่งน้องเขามีไอติมขายส่งด้วยนะครับ สนใจก็ไปคุยได้เลยครับ ส่วนคู่รักหรือคนโสดในวาเลนไทน์ที่จะถึงนี้ ยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะไปไหนก็ไปฉลองกันที่นี่ได้นะครับ
ติดตามข้อมูลข่าวสาร MINT MINT Homemade Icecream & Dessert ได้ที่
https://www.facebook.com/mintmint.homemade/
เชิญชมภาพเคลื่อนไหว
ขอบพระคุณครับ
นนท์
กุมมือกัน ในเดือนกุมภาพันธ์
สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign