กินอะไรดี ซื้อกินดีกว่า [2]
ผมได้พาไปเที่ยว เจดีย์ ชูเรโตะ (Chureito Pagoda) ที่ คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
ไปในตอน Chureito Pagoda คลิกอ่านกันได้เลยครับ
และได้บอกวิธีการเดินทางไปในตอน การจองตั๋วรถบัส และ ไป Kawaguchiko โดยรถบัส
คราวนี้ผมจะมาแนะนำที่กินครับ
และวันนี้เช้าวันจันทร์ที่ 30 มกราคม 2560
ในช่วงกลางฤดูหนาว แต่ร้อนผ่าวยังกะซัมเมอร์
ขณะที่ผมเขียนเรื่องนี้อยู่ก็แบบว่า เชียร์น้องน้ำตาลครับ
#missuniverse #thailand ลงใน Twitter กะเขาด้วย
ผมรู้สึกว่าคราวนี้เตรียมตัวไปอย่างดี ทั้งตัวน้องและทีมงาน
น้องน้ำตาล ก็เก่งเรียนรู้ไว น่าจะ มงลง ให้ชาวไทยได้ชื่นใจกัน
หวังว่าเราจะได้ Miss Universe 2016
#น้ำตาล #มงลง
แต่ก็มาได้ถึงรอบ 6 คนสุดท้าย แอบเสียดายเล็กน้อย แต่ก็มีความสุขแล้วนะครับ
คนไทยทุกคนก็ช่วยเชียร์ ช่วยโหวต ร่วมใจกันแบบว่าจัดเต็มครับ
ไม่เคยแพ้ชาติใดในโลกจริง ๆ
และขอแสดงความยินดีกับ Iris Mittenaere
Say “bonjour” & “Congratulations” to #MissUniverse
กลับมาที่เรื่องของเราครับ 55555
กินอะไรดีที่คาวากุจิโกะ
ซึ่งร้านที่ผมจะพาไปกินเป็น ร้านท้องถิ่น (Local Restaurant) ซึ่งร้านนี้ก็เป็นร้านที่มีคนไทยเคยไปกินอยู่ไม่น้อยเลยครับ อาจจะเป็นร้านประจำของนักท่องเที่ยวชาวไทยที่คาวากุจิโกะด้วยซ้ำ

ร้านนี้ชื่อ HOTO FUDO
ซึ่งสาขาที่ผมจะพาไปคือสาขาที่อยู่ตรงข้ามสถานีคาวากุจิโกะครับ (มีแผนที่ด้านล่าง) เข้าไปเลยครับ มีเมนูภาษาอังกฤษไม่ต้องห่วง ผมไม่แน่ใจว่ามีกี่สาขานะครับ แต่อีกที่อยู่ใกล้ ๆ กับ พิพิธภัณฑ์ศิลปะคาวากูจิโกะ (Kawaguchiko Museum of Art) ซึ่งจะใหญ่กว่าสาขาตรงสถานีครับ
ชื่อร้านคือ โฮโต ฟุโด น่าจะอ่านประมาณนี้ครับ
Hoto โฮโต (ほうとう) นี้เป็นอาหารท้องถิ่นของ จังหวัดยามานาชิ (Yamanashi) ซึ่งเป็นที่ตั้งของ ภูเขาไฟฟุจิ (Fuji San) และแน่นอนครับเป็นที่ตั้งของ คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ซึ่งไม่ใช่ชื่อเมือง ชื่อจังหวัด หรือชื่อสวนสาธารณะนะครับ จริง ๆ แล้วคาวากุจิโกะ คือ ทะเลสาบคาวากุจิ (Lake Kawaguchi) ถ้าเขียนจริง ๆ ต้องเขียนว่า Kawaguchi Ko ผมเดาว่า Ko น่าจะแปลว่า ทะเลสาบ
ซึ่งโฮโตนี้ เป็นอาหารชนิดหนึ่งคล้ายก๋วยเตี๋ยวบ้านเรา ถ้าเทียบง่าย ๆ ก็คล้าย ๆ ราเม็งครับ ซึ่งเส้นทำจากแป้งสาลีออกมาเป็นเส้นขนาดกว้างเกือบจะถึงเส้นใหญ่ของบ้านเราแต่หนากว่า เหนียวแต่ไม่เท่าอุด้ง วิธีการปรุงคือนำเส้นลงไปต้มกับ น้ำซุป ที่ทำจาก มิโซะ (Miso) เลย โดยไม่ต้องลวกน้ำร้อนก่อน
เมื่อมีเส้นกับน้ำซุปแล้ว เครื่องของโฮโต จะเน้นไปทางผักเป็นหลัก เช่น หัวหอม แครอท ผักกาดขาว เห็ด บางที่ก็ใส่หมู ไก่ แล้วแต่ครับ


ไม่รู้เขียนว่าอะไร

ทางไปร้านก็คือให้เราเดินข้ามถนนมายังฝั่งตรงข้ามกับสถานีครับ จะเห็นร้านเป็นไม้ ร้านนั้นเลยครับ ตอนเที่ยงคนจะเยอะสักหน่อย ไปสัก 11 โมงครึ่งหรือบ่ายโมงจะได้ไม่รอนาน

มีทั้งแบบนั่งเก้าอี้และนั่งเสื่อ


อาหารที่ผมสั่ง แน่นอนครับ ก็มี โฮโต (Hoto) 1,080 เยน ชามโตเลยทีเดียวครับ มาแบบร้อน ๆ เลย เขาจะให้ถ้วยแบ่งมาครับ ชามโคมแบบนี้น่าจะแบ่งได้ 2 คนนะครับ ผมเห็นบางโต๊ะนั่งกินคนละชามเลยก็มีครับ
รสชาติก็ซุปมิโสะแบบที่เราเคยกินเลยครับ รสสัมผัสของเส้นก็คล้าย ๆ เส้นปลารสชาติมิโซะครับ ฮาาาาาา
ผมว่าตัวเส้นน่าจะจืด แต่เส้นมีลักษณะเป็นหยักทำให้ระหว่างที่คีบขึ้นมาก็เลยมีน้ำซุปติดขึ้นมากะเส้นด้วย

ก่อนที่โฮโตที่เรารอคอยจะมานั้น พวกเราก็เริ่มต้นด้วย ซาชิมิเนื้อม้า (Basashi) 1,080 เยน เนื้อม้าสด ๆ แล่บาง เสิร์ฟพร้อมน้ำจิ้มโชยุ ทานแนมกับ ขิง และ กระเทียมขูด พร้อม ต้นหอมญี่ปุ่นซอย อร่อยนะครับ ไม่มีกลิ่นสาบหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์เลยครับ ต้องลอง

ลำดับต่อไปคือ ผักดองญี่ปุ่น (Tsukemono) 540 เยน จะมีผักดองมาให้ 5 แบบครับ ผมไม่แน่ใจว่าเป็นผักอะไรบ้าง มีแบบสับ มีเป็นชิ้น แบบชิ้นนี่กรอบมากเลยครับ เคี้ยวไปนี่ดัง กร๋อบ ๆ และแบบชิ้นยังมีที่ใส่ซอสหรือผงคล้าย ๆ กิมจิ รสชาติดี กินแกล้มไปเรื่อย ๆ

จานต่อมาถูกนำมาวางอย่างงง ๆ คือ Mugi Toro Meshi 1,080 เยน ผมไม่รู้จะเรียกว่าอะไรดี ผมเคยกินไอน้ำขาวนี้แล้ว ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ คือมันจะเป็นเมือก ๆ รสชาติแทบจะจืดสนิท สอบถามได้ความว่าทำจากมันเทศ มีชื่อว่า Tororo (Yamato Yams) (ซึ่งราคาไม่ถูกนะครับ ผมเคยสั่งมาเพิ่ม (ร้านอื่น) ถ้วยละ 200 เยนครับ)
ราดมาบนข้าวบาร์เลย์หุงแบบนิ่ม ๆ ซึ่งคำว่า Mugi ก็คือ ข้าวบาร์เลย์ นั่นเอง และท็อปด้วยสาหร่ายด้านบน

หากท่านผู้อ่านได้มีโอกาสไปเยือนคาวากุจิโกะ (Kawaguchiko) ก็อย่าลืมแวะไปกินนะครับ อาหารอร่อย ทำเลดี ไปมาสะดวก กินเสร็จ เที่ยวต่อได้สบาย ๆ ครับ
คลิปรีวิว กิน Hoto Fudo ที่คาวากุจิโกะ (Kawaguchiko)
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign