ตั้งแต่ปี ค.ศ. 2013 ที่ประเทศญี่ปุ่นผ่อนผันให้คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นได้ (พำนักระยะสั้นได้ไม่เกิน 15 วัน)โดยไม่ต้องทำวีซ่า มีผลให้คนไทยไปเที่ยวญี่ปุ่นกันอย่างคึกคัก ยิ่งถ้าเป็นช่วงวันหยุดยาว คนไทยแทบจะเดินชนกันที่ญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้นะครับ

และช่วงสงกรานต์ที่กำลังจะถึงนี้ หรือวันนี้ (7 เมษายน) เป็นวันหยุด ซึ่งตอนนี้บางท่านอาจจะยืนอยู่ในแดนอาทิตย์อุทัยแล้วก็เป็นได้

ส่วนผมสงกรานต์ปีนี้ก็ขออยู่บ้านครับ เก็บบ้านให้เรียบร้อย แต่ก็เหมือนไปเองเลย เพื่อน ๆ มักจะมาให้จัดทัวร์ให้ หรือตรงนี้ไปเที่ยวไหนดี ไม่ได้บ่นนะครับ แต่สนุกมาก ผมมักจะเล่า ๆ เพื่อนอาจจะรำคาญบ้าง หรือไม่ก็นัดกินข้าวเพื่อให้ผมไปเล่าซะเลย

แต่เชื่อมั้ยครับ มีคำถามนึงที่ทุกคนต้องถาม ทั้งคนที่เคยไปแล้วและไม่เคยไป ถ้าเคยไปก็เดิน ๆ ตามเข้าไป อะไรประมาณนั้น จับจุดไม่ได้ ซึ่งคำถามคือ อะไรอยู่ตรงไหนบ้างที่ Shinjuku Station 

จึงเป็นที่มาของ

เรื่องอยากจะเล่า [1]

งั้นเรามาทำความเข้าใจกับ Shinjuku Station กันดีกว่า

ผมจะขออธิบายจากแผนที่จากเว็บ http://www.jreast.co.jp/e/stations/img/map_e/e866.pdf

 

เริ่มจากทางเข้า-ออกของสถานีก่อนเลยครับ ทางออกนี่แหละครับที่ทำผมพลาดแบบสุด ๆ ผมเปิดแผนที่ดิจิตอลจากโทรศัพท์เพื่อเดินจากสถานีไปโรงแรม ดูป้ายดูแผนที่สลับกันไป ก้ม ๆ เงย ๆ ไปถึงจุดที่เป็นทางออก ไม่มีครับ หรือไม่มีช่องออก อ่าว Ship หาย และ คราวนี้ไปเรื่อยครับ ลากกระเป๋าไป เดินวนไปวนมา เมื่อยเท้ากันไป ซึ่งทางออกที่ดีที่สุด คือดูป้ายครับ ไปตามป้ายอย่างเดียว ขึ้นลงยังไงไปตามป้ายเลย ซึ่งพอผมไปบ่อย ๆ เข้า ก็หลงอยู่ดี ^_^ ไม่หลงได้ไงเขาว่าทางเดินทางเข้าทางรวมกันเป็นร้อยทาง ในเมื่อมันเยอะขนาดนั้น ผมจึงขออธิบายจาก จุดตื๊ดบัตร หรือ จุดตื๊ดตั๋ว ครับ ซึ่งจริง ๆ ก็คือ ประตู หรือ Gate นั่นเอง ถ้าเราผ่านจุดนี้ได้ก็จะหาทางออกได้ต่อครับ (ให้นึกถึงรถไฟฟ้าบ้านเราครับ พอตื๊ดตั๋วก็จะมีทางออกซ้ายออกขวาเต็มไปหมดเลย) ถ้าดูจากในรูปก็จะเป็นที่กั้นสีขาวเรียงกันอยู่

จุดตื๊ดบัตร ผมจะขอใช้คำว่า Gate นะครับ ส่วนตอนอยู่ในสถานีเวลาดูป้ายใช้คำว่า Exit หากเราอยู่ด้านนอกก็คือ Entrance ครับ

เริ่มจากชั้นใต้ดินก่อนครับ B1F

จากรูปไล่จากบนลงล่างครับ

1. West Gate ทิศตะวันตก
2. Central West Gate ทิศตะวันตกกลาง ทางออกอย่างเดียวนะครับ เข้าไม่ได้
3. Central East Gate ทิศตะวันออกกลาง
4. East Gate ทิศตะวันออก

ชั้นเสมอกับพื้นดิน 1F

1. South Gate ทิศใต้
2. New South Gate ทิศใต้ใหม่
3. Koshu-kaido Gate เป็นประตูใหม่นะครับ (เขาปิด Southern Terrace Gate แล้วเปิด Koshu-kaido Gate อยู่ตรงข้ามกับ New South Gate)
4. Miraina Tower Gate
5. South East Gate ทิศตะวันออกเฉียงใต้

ซึ่งถ้าคิดเฉพาะทางหลัก ๆ จะมี  West Gate, East Gate, South Gate และ South East Gate ให้จำไว้ว่า บน เจอ ใต้ ออกเฉียงใต้ | ล่างจะเจอ ตก กับ ออก

 

ต่อไปเป็นชานชาลา ขอใช้รูปเดิมครับ

มีทั้งหมด 16 ชานชาลา แบ่งตามคำอธิบายตามรูปเลยครับ แต่พออยู่ที่สถานีก็ให้เช็คตามป้ายอีกทีนะครับ ซึ่งสายทั้งหมดนี้เราสามารถขึ้นต่อได้เลย แบบสถานีสยามที่บ้านเราครับ ซึ่งพวกนี้เป็น JR Line ครับคือรถไฟสาย JR สามารถใช้ JR Pass ได้เลยครับ บางคนจะเรียกว่า JR Platforms

ต่อไปจะเป็นสายอื่น ๆ ซึ่งเมื่อรู้ จุดตรวจบัตร รู้ ชานชาลา JR Line กันแล้ว ต่อไปเป็นเรื่องสายรถไฟต่าง ๆ ที่สามารถต่อได้จาก Shinjuku Station (เราจะต้องตื๊ดบัตรออกนะครับ) พวกนี้จะไม่ใช่ JR ผมจะขออธิบายแค่ ผมคิดว่าใช้บ่อย ๆ เท่านั้นนะครับ จริง ๆ มีเยอะมากเลยครับ ซึ่งผมอยากให้เข้าใจหลัก ๆ ไว้ก่อน ที่เหลือเปิด google map เดินตามป้ายไปได้เลยครับ ป้ายบอกละเอียดครับ แต่ที่ต้องมาเล่าให้ฟัง คือถ้าเข้าใจจุดต่าง ๆ ก็จะเดินทางได้ง่ายขึ้นเท่านั้นครับ ซึ่งจะมี

• KEIO Line
• Odakyu Line
• Marunouchi Line
• Toei Oedo Line
• Toei Shinjuku Line

เหมือนเดิมครับ ดูจาก google map เลย เราต้องการจะไปที่ไหนใช้รถไฟสายอะไร ตาจ้องที่ป้ายนั้น เดินตามไปเลยครับ แต่ค่อย ๆ เดินไปนะครับ หลงทียาว ดังนั้นผมจะบอกทางคร่าว ๆ ไว้ครับ

Keio Line ตั้งอยู่ที่ ห้างสรรพสินค้า Keio ให้เราไปทางทิศ ตะวันตก (West) ของสถานีชินจูกุ ออกทาง Keio Line Gate ครับ

Odakyu Line อยู่ทางฝั่ง ตะวันตก (West) เช่นเดียวกับ Keio Line ออกทาง Odakyu Line Gate เจ้าของคือ ห้างสรรพสินค้า Odakyu ครับ ใช้เดินทางไป จังหวัดคานากาว่า คุ้น ๆ หน่อยก็ไป ฮาโกเน่ ครับ

Marunouchi Line เป็นรถไฟฟ้าใต้ดิน ใช้ทางออกทิศตะวันออกครับ

Toei Oedo Line มีสถานีสองแห่งที่ชินจูกุคือ Toei Oedo Line และ Toei Shinjuku Line สามารถไปได้สองทางครับ คือ ทางออกทิศใต้แต่ต้องขึ้นไปชั้นบน หากไปทิศตะวันออกนั้นก็ต้องลงบันไดไปชั้นล่างครับ

 

ต่อไปเป็นเรื่องสำคัญเลยครับคือ

ออกไปตาม Gate ต่าง ๆ แล้วจะเจออะไรบ้าง

เอาแค่ Gate หลัก ๆ นะครับ

เริ่มจาก West Gate 

ทางจะเป็นด้านแหล่งช้อปปิ้งสำคัญ ๆ โรงแรมหรู และยังเป็นที่ตั้งของ Tokyo Metropolitan Government อาคารศาลาว่าการมหานครโตเกียว ด้วยนะครับ ห้างดัง ๆ คือ Lumine, Odakyu, Keio บอกได้ว่าผมขอเวลาสัก 1 วันสำหรับ West Gate ครับ 

 

East Gate

ฝั่งนี้ก็ไม่แพ้ฝั่งตรงกันข้าม มี ห้างอิเซตัน (Isetan) หรือย่านบันเทิงอย่าง คาบูกิโจ (Kabukicho) ไม่ใช่แค่นั้นนะครับ รองเท้า กระเป๋า เสื้อผ้าอุปกรณ์ไฟฟ้ามีครบถ้วนไปจนถึง แบรนด์เนมมือสอง ไล่ไปตั้งแต่ Adidas, Bic Camera, ABC Mart และ ร้านดองกี้ หรือ Donkihote ร้านที่รวบรวมทุกสิ่งอย่างให้เลือกสรร และ ร้านราเมงข้อสอบ ชื่อดัง ICHIRAN RAMEN

 

South Gate

ออกไปจะเจอกับ Keio Bus Station ซึ่งผมเคยพาไปเที่ยวแล้ว ในตอน (คลิกไปอ่านได้ครับ) ไป Kawaguchiko โดยรถบัส ซึ่งตึกนี้เราสามารถต่อรถบัสไปยังที่ต่าง ๆ ได้ เดินถัดไปหน่อยก็จะเป็น Takashimaya Times Square ห้างดังกระเป๋าดังฉีก รวบรวมสินค้าแบรนด์เนมจากทั่วโลกกันเลยทีเดียว (ผมไปซื้อกระเป๋า Bao Bao ที่นี่นะ) หากเบื่อจะช้อปปิ้งแล้ว มีสวนสาธารณะ Shinjuku Gyoen Park ซึ่งภายในเป็นสวนดอกไม้ มากมายให้ได้สัมผัส สมราคาค่าเข้า 200 เยน ครับ ตบท้ายด้วยของกินอร่อยๆ ร้าน Isomaru Suisan ร้านอาหารซีฟู้ดสไตล์ญี่ปุ่น เอาไว้ผมจะรีวิวที่นี่ให้ได้ชมกันนะครับ

หวังว่าทุกท่านจะพอเข้าใจ Shinjuku Station มากขึ้นนะครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ผมเขียนนานมาก ๆ เลย เนื่องจากมันเยอะมากเลยครับ ต้องค่อยเรียบเรียงความคิดและข้อมูลต่าง ๆ หากผิดพลาดประการใด ผมต้องขออภัยมาที่นี่นะครับ

 

ขอขอบคุณ
นนท์
หลงทางเป็นเรื่องสนุกครับ

สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign

ขอบคุณรูปภาพจาก
http://www.jreast.co.jp/e/stations/img/map_e/e866.pdf