เที่ยวไหนดี เที่ยวในประเทศ [2]

สวัสดีคร้าาบบบบบบบบผม ผมพาท่านผู้อ่านไปผจญภัยที่ญี่ปุ่นก็หลายตอนแล้ว คราวนี้ผมจะขอพาไปเที่ยวประเทศของเราบ้างครับ

จะไปที่ไหนหน่ะหรอครับ ง่าย ๆ เลยครับ คาดว่าผู้อ่านหลายท่านน่าจะเคยไปกันครับ

คือ เชียงใหม่ (Chiang Mai) นั่นเองครับ

ทำไมต้องเชียงใหม่

ด้วยร้านกาแฟเก๋ ๆ ที่อยู่ในตัวเมืองและพื้นที่รอบ ๆ กว่า 400 ร้าน
วัดวาอารามที่เก่าแก่ตั้งอยู่ท่ามกลางเมืองอันทันสมัย
ร้านรวง ผับ บาร์ชื่อดัง ที่พักหลากหลายแบบตามต้องการ
ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ หรือจะเดินห้างแอร์ฯเย็นก็มีหมด
อาหารถิ่น อาหารต่างชาติ รสชาติดี
ของซื้อของฝากเก๋ไก๋ไม่ซ้ำใคร
ภาษาท้องถิ่นน่ารัก น่าฟัง

ต่อให้ผมเขียนหมดพื้นที่เว็บก็ยากจะอธิบาย เมืองหลวงของอาณาจักรล้านนา ในอดีตแห่งนี้ได้หมด
ทั้งเก่า ทั้งใหม่ โบราณแต่เก๋ ๆ โมเดิร์นแต่เรียบง่าย ครบครันครับ

เรามาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ
ผมขับรถไปจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ค่าจอดวันละ 250 ครับ เนื่องจากบ้านผมค่อนข้างไกลสนามบิน ค่าแท็กซี่ก็ ขาละ 650 – 700 บาท เลยใช้โปรของ Grab Taxi ก็ได้ขาเดียว เลยว่า ขับไปจอดเลยดีกว่า
ผมบินไปที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วยสายการบินแห่งชาติ ถึงที่เชียงใหม่ประมาณ 10 โมงเช้าครับ ผมทำการเช่ารถไว้ ให้เขามาส่งที่สนามบิน พอรับรถเสร็จ ท้องก็ร้อง ตั้งแต่เช้าก็ได้แค่ขนมปังรองท้องบนเครื่อง ไปครับ เราไปกิน อาหารเช้า + เที่ยง หรือที่เรียกกันว่า Brunch นั่นเองครับ

จากสนามบินผมวิ่งเข้าคูเมือง เลี้ยวซ้ายตรงข้ามประตูสวนดอก เข้า ถนนสุเทพ เลี้ยวขวาเข้า ถนนศิริมังคลาจารย์ และเลี้ยวขวาอีกที เข้า ซอยศิริมังคลาจารย์ 9 (หน้าซอยเป็นลูกศรไปทางขวาเขียนว่า สถานกงสุลอิตาลี) ไปเติมท้องให้เต็มกันที่ร้าน

ก๋วยเตี๋ยวอัญชัน

 

 

นี่เป็นครั้งแรกที่ผมไปกินร้านนี้เลยนะครับ ลองดูตามที่พี่ ๆ ในวงการนักเขียนเรื่องท่องเที่ยวแนะนำ บอกว่า ต้องไปลองให้ได้ ที่จอดรถก็แถว ๆ นั้นครับ ก็ระวังบ้านคนหรือไม่ให้ขวางใครเขาก็จอดได้เลย
ภายในร้านที่ 2 โซนครับ คือด้านใน มีแอร์ฯ เย็นฉ่ำ กับ ด้านนอก นั่งรับลมชมวิว ผมเลือกด้านนอกครับ ร้านร่มรื่น ไม่ร้อน พนักงานก็ยิ้มแย้ม เป็นกันเองดีครับ จะสั่งอะไรก็ดูรูปแล้วเขียนลงกระดาษ

 

 

ผมเริ่มจากสั่ง น้ำอัญชันมะนาว 20 บาท มากินแก้กระหายให้คลายร้อนกันสักนิด ท่านใดไม่อยากกินเปรี้ยว ๆ ก็มีน้ำอัญชันใบเตย ให้เลือกครับ 20 บาทเท่ากัน

มาร้านก๋วยเตี๋ยวอัญชันก็ต้องลอง ก็คือ

• ก๋วยเตี๋ยวอัญชันต้มยำโบราณ 50 บาท
• ก๋วยเตี๋ยวอัญชันหมูกรอบ 45 บาท
• ก๋วยเตี๋ยวอัญชันหมูย่าง 45 บาท

 

 

 

ก๋วยเตี๋ยวมาเสิร์ฟแล้วถึงกับตกใจ ปริมาณเยอะมากครับ
มองด้วยสายตา น่ากินมากเลย แปลกด้วย ไม่เหมือนกับที่จินตนาการไว้ ผมคิดว่าจะเป็นซุปใส่น้ำอัญชันประมาณนั้น นี่มาแบบแห้งแนมหมูกรอบมาด้านข้างพร้อมน้ำจิ้ม
เส้นก๋วยเตี๋ยวก็คือ เส้นเล็ก นี่แหละครับ แต่เป็นสีฟ้าออกม่วง โรยหน้าด้วยกระเทียมเจียว

ซึ่งหลังจากลองชิมแล้ว จานนี้อร่อยนะครับ แปลกดี เส้นนุ่มเหนียวกำลังดี หมูกรอบนี่พูดยากเลยครับ ลักษณะคล้ายหมูสามชั้นทอดครับ ไม่เหมือนหมูกรอบในพวกข้าวหน้าหมูกรอบ ลองดูจากรูปนะครับ พอชิมแล้ว มันน้อย รสชาติดีเลย ยิ่งกินคู่กับน้ำจิ้มนี่แซบลืม ขอบอก

ผมแอบแย่งหมูย่างจาก ก๋วยเตี๋ยวอัญชันหมูย่าง ของแฟนผมมาชิม หมู่นุ่มครับ รสชาติกลมกล่อม เค็ม หวาน กำลังดี ยิ่งได้น้ำจิ้มรสชาติเปรี้ยวเผ็ดนิด ๆ ของทางร้านก็เข้ากันดี

 

 

ผมลองสั่งก๋วยเตี๋ยวต้มยำแบบเบสิกมาลองกินดูครับ วุ้นเส้นต้มยำหมูนุ่มขลุกขลิก 40 บาท

เป็นวุ้นเส้นต้มยำน้ำขลุกขลิกครับ หมูชิ้นหมักขาวอวบ นุ่มเด้งดีครับ ส่วนน้ำซุปก็ขลุกขลิกไปจนถึงน้อย รสชาติเข้มข้น ดีครับ ถ้าท่านผู้อ่านอยากได้แบบน้ำเยอะ เขามีให้เลือกแบบน้ำปกตินะครับ

 

 

ซุปกระดูก ราคา 30บาทได้กระดูกมา 1 ชิ้นใหญ่ ขอบอกว่าเปื่อยมาก ๆ อร่อยนะครับ รสจัดดี  คล้ายซุปกระดูกเล้ง แต่น้ำเป็นน้ำก๋วยเตี๋ยวต้มยำครับ ไม่เหมือนต้มแซบเล้งที่จะเป็นน้ำต้มแซบแบบใส ๆ ซึ่งผมชินกับแบบน้ำใสเป็นต้มแซบมากกว่า

 

 

หลังจากอิ่มท้องแล้วก็เกือบ ๆ เที่ยงพอดีครับ ตามประสาคนไทย ไปลามาไหว้ จะไปที่ไหนก็ขอให้ได้ไหว้พระกันเสียก่อน ผมก็ไปที่ วัดลอยเคราะห์ แบบที่ผมบอก วัดวาอารามที่เก่าแก่ตั้งอยู่ท่ามกลางเมืองอันทันสมัย ไม่น่าเชื่อว่าใจกลางเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคัก จะมีวัดที่แสนร่มเย็น เงียบสงบอยู่

 

 

วัดแห่งนี้ตั้งอยู่ที่ ถนนลอยเคราะห์ ตำบลช้างคลาน อำเภอเมืองเชียงใหม่ อายุมากกว่า 600 ปีแล้ว ซึ่งแต่เดิมชื่อว่า วัดร้อยข้อ หรือ วัดฮ้อยข้อ ต่อมาเพี้ยนมาเป็น วัดลอยเคราะห์ จึงเป็นที่มาของความเชื่อตามชื่อของวัดว่า ถ้าได้ไปเยือนที่วัดนี้ก็จะได้ ลอยเคราะห์ ลอยทุกข์ ลอยสิ่งที่ไม่ดีออกไปจากตัว

 

 

 

 

 

 

ผมเริ่มจากไปไหว้พระที่พระวิหารก่อนครับ ก่อนทางเข้าพระวิหารจะมีเจ้าหน้าที่อธิบายครับว่าเราต้องทำอะไรบ้าง จะทำบุญทั้งหมดหรือเลือกทำเป็นอย่าง ๆ ไป ตามสะดวกครับ

 

 

 

หลังจากนั้นให้เราเดินลึกเข้าไปด้านใน เข้าไปไหว้ หมอชีวกโกมารภัจจ์ อ่านว่า ชี-วะ-กะ-โก-มา-ระ-พัด ครับท่านเป็นบรมครูแห่งการแพทย์แผนโบราณและเป็นแพทย์ประจำพระองค์ของพระพุทธเจ้า มีความเชื่อว่า ท่านจะช่วยเรื่องเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ  ให้เราสุขภาพแข็งแรง อยู่ดีมีสุข ไม่มีโรคภัยครับ

ผมขอจบตอนแรกแต่เพียงเท่านี้ครับ ตอนต่อไปผมจะพาไปอิ่มอกอิ่มใจที่ไหนอีก ฝากติดตามใน เที่ยวเชียงใหม่ EP.2 ด้วยนะครับ

ขอบพระคุณ
นนท์

สุดท้ายขอฝาก
Facebook: nontdesign
IG: nontdesign
Twitter: nontdesign